MGR Online - ผลดีเอ็นเอ ยัน “แม่ปุ๊ก-น้องอิ่มบุญ” มีความสัมพันธ์แม่-ลูก โดยสายเลือด ขณะที่พนักงานสอบสวน ส่งขวดยา 15 ขวด ตรวจดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ คาดว่า จะรู้ผลใน 3 วัน
วันนี้ (26 พ.ค.) ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) พล.ต.ท.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. ปฏิบัติราชการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฏฐ์ บุรณศิริ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) กลุ่มงานตรวจชีววิทยาและดีเอ็นเอ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีที่ น.ส.นิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาวางยาน้องอมยิ้มวัย 4 ขวบ และน้องอิ่มบุญ วัย 2 ขวบ เพื่อหวังเงินบริจาค ว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางพนักงานงานสอบสวนได้ส่งขวดยาพลาสติก 15 ขวด มาที่กลุ่มงานตรวจชีววิทยาและดีเอ็นเอ เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอและลายนิ้วมือ ซึ่งการตรวจจะบันทึกสภาพหีบห่อ สลากบรรจุ เก็บดีเอ็นเอที่ภาชนะเพื่อยืนยันว่าใครเป็นผู้จับต้องหรือสัมผัสขวดยาบ้าง หรือมีการใช้เพื่อนำไปให้เด็กกินหรือไม่ ซึ่งลักษณะของขวดยามีการเขียนชื่อน้องอิ่มบุญ กำกับไว้ รวมทั้งมีป้ายชื่อยา และยาหลงเหลืออยู่ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวอย่างดีเอ็นเอบุคคลของ น.ส.นิษฐา และ น้องอิ่มบุญ มาเทียบเคียงด้วย
พล.ต.ท.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า ทางกลุ่มงานตรวจชีววิทยาและดีเอ็นเอ จะตรวจเฉพาะภาชนะหีบห่อเท่านั้น โดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 3 วัน หลังจากนั้น จะส่งให้ผู้ชำนาญเฉพาะของกระทรวงสาธารณสุขตรวจหาชนิดยาที่บรรจุภายในตำรับยาจะว่าเป็นยาชนิดใด ใช้รักษาอาการอะไร และตรงกับฉลากที่ติดหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ต้องไปหาต่อว่าใครเป็นผู้จ่ายยา และมาจากที่ใด
ส่วนการตรวจดีเอ็นเอหาความสัมพันธ์แม่ลูกระหว่างของนางนิษฐา กับ น้องอิ่มบุญ วัย 2 ขวบ พล.ต.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า ทาง พฐก.ได้เก็บตัวอย่างจากเยื่อบุกระพุ้งแก้ม ขณะนี้การตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอให้ทางพนักงานสอบสวนมารับผลตรวจเพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน และทางพนักงานสอบสวนคงจะเป็นผู้แถลงผลการตรวจต่อไป
มีรายงานว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบระหว่าง นางนิษฐา กับ น้องอิ่มบุญ วัย 2 ขวบ พบว่า ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์เป็นแม่ลูกกันโดยสายเลือด