MGR Online - “อธิบดีคุก” กำชับเรือนจำทั่วประเทศ กำหนดมาตรการป้องกันโควิด-19 อาทิ ญาติลงทะเบียนล่วงหน้าลดความแออัดระหว่างรอ, จัดพื้นที่ให้มีระยะห่าง 2 เมตร, สวมหน้ากากอนามัย ฯลฯ พร้อมเปิดเยี่ยม 1 มิ.ย.นี้
วันนี้ (21 พ.ค.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นสามารถป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงเห็นสมควรที่จะผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการการป้องกันโรคระบาดในเรือนจำ โดยให้เรือนจำทัณฑสถานทั่วประเทศกลับมาเปิดให้บริการเยี่ยมญาติ รับฝากเงิน และสั่งซื้อสินค้าจากร้านสงเคราะห์ให้ผู้ต้องขังได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 63 นี้
พ.ต.อ.ณรัชต์ เผยอีกว่า กรมราชทัณฑ์ได้วางมาตรการการเยี่ยมญาติใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็นวิถีชีวิตใหม่ (new normal) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไว้ดังนี้ 1. ผู้เข้าเยี่ยมจะต้องลงทะเบียนล่วงหน้ากับทางเรือนจำที่ผู้ต้องขังถูกควบคุมตัวอยู่ก่อนเข้าเยี่ยม เพื่อลดความหนาแน่นในการรอเยี่ยม 2. เรือนจำจะมีการจัดช่องเยี่ยมญาติและพื้นที่นั่งรอให้มีระยะห่าง 1.5-2 เมตร 3. ญาติที่มาเยี่ยมต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากไม่มีจะไม่อนุญาตให้เยี่ยมโดยเด็ดขาด 4.ญาติที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศา จะไม่อนุญาตให้เยี่ยมโดยเด็ดขาด 5. เจ้าหน้าที่ทุกคนจะสวม face shield ไว้ตลอดเวลาและให้เรือนจำจัดที่รับฝากสิ่งของและแอลกอฮอล์เจลไว้ให้บริการอย่างเหมาะสม และทุกครั้งที่เสร็จสิ้นการเยี่ยมจะต้องมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดสถานที่เยี่ยมและจุดรับฝากสิ่งของก่อนที่จะมีการให้เยี่ยมในรอบต่อไป
พ.ต.อ.ณรัชต์ เผยต่อว่า เรือนจำทัณฑสถานทั่วประเทศจะต้องจัดทำแผนและขั้นตอนการปฏิบัติเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดที่เรือนจำทัณฑสถานตั้งอยู่ เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อนดำเนินการ เพื่อให้การป้องกันโรคระบาดเป็นไปอย่างเหมาะสมถูกต้องตามหลักการ และขอเน้นย้ำว่า หากญาติรายใด รู้สึกมีอาการใกล้เคียงกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขอให้รับผิดชอบตนเองโดยไม่มาเยี่ยมผู้ต้องขัง ทั้งนี้ จากสถิติที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์สามารถระงับยับยั้งและป้องกันมิให้ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ดีในระดับหนึ่ง กล่าวคือ มีผู้ต้องขัง เพียง 2 ราย จาก 380,000 ราย และเจ้าหน้าที่เพียง 3 ราย จาก 15,000 ราย รวมเป็น 5 ราย เท่านั้นที่ติดเชื้อโควิด-19 และปัจจุบันได้รับการรักษาจนหายขาดแล้วทุกราย