พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมลงนาม บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบการรักษาพยาบาล ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับกรมราชทัณฑ์ เพื่อพัฒนาการดูแลรักษาพยาบาลแก่ผู้ต้องขังป่วย
โดยวางกรอบแนวทางความร่วมมือ 4 ข้อ คือ 1. พัฒนาด้านการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยโดยเฉพาะทางที่เกินขีดสมรรถนะ 2. พัฒนาระบบการให้บริการที่มีความทันสมัย มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากลร่วมกัน 3. สนับสนุนด้านวิชาการ และการวิจัยของทั้ง 2 หน่วยงาน และ 4. สนับสนุนบุคลากรทางด้านการแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของทั้ง 2 หน่วยงาน รวมถึงงานด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการให้บริการ
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวของกรมราชทัณฑ์ ที่รองรับผู้ต้องขังป่วยได้ไม่เกิน 300 ราย อีกทั้งเป็นศูนย์กลางในการรักษาผู้ต้องขังป่วยที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำ และทัณฑสถานทั่วประเทศ หากมีความจำเป็นต้องรักษาพยาบาลเป็นเวลานาน เมื่อจำนวนผู้ต้องขังมากขึ้น จนเกิดความแออัด กรมราชทัณฑ์มีนโยบายพัฒนาระบบการรักษาพยาบาลให้ดีขึ้น จึงหารือร่วมกับ พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ และผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ หาแนวทางพัฒนาร่วมกัน ซึ่งทำให้เกิดความร่วมมือในการลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้
ขณะที่ พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ กล่าวว่า ทันฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีแผนที่จะเพิ่มศักยภาพสถานพยาบาลให้เป็นโรงพยาบาลทุติยภูมิขนาดใหญ่ จึงมีแนวคิดทำข้อตกลงเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในโรคเฉพาะทางที่ซับซ้อน การศึกษา วิจัย และเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วย จึงจัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ ในการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบการรักษาพยาบาลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ไปสู่ความทันสมัยที่ได้มาตรฐานในระดับสากลร่วมกัน โรงพยาบาลตำรวจรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสององค์กรและประเทศชาติต่อไป
ทั้งนี้ หลังพิธีลงนาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบแอลกอฮอล์ล้างมือ 30 ml. จำนวน 3,447 ขวด ให้นายแพทย์ใหญ่ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจทุกคนพกติดตัว ไว้ใช้ทำความสะอาดด้วย