MGR Online - ป.ป.ส. ร่วม AITF จับกุมนักศึกษา ม.เอกชน ย่านนนทบุรี สั่งซื้อยาอีช่องทางออนไลน์ส่งพัสดุจากยุโรป ตั้งแต่ปี 59 ค้นห้องพบเครื่องอัดเม็ด สารภาพเตรียมผลิตขายเอง
วันนี้ (13 พ.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8-10 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคีภายใต้ภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Taskforce : AITF) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมศุลการกร และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ทำการสืบสวนติดตามและจับกุมวัยรุ่นชาย อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี พร้อมยาอี 10,000 เม็ด ที่ส่งมาทางพัสดุจากประเทศเนเธอร์แลนด์
นายนิยม เผยอีกว่า จากการบูรณาการของหน่วยเกี่ยวข้องทำให้ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ มีพฤติกรรมลักลอบสั่งซื้อยาอีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยใช้เงินสกุลบิตคอยน์ จากนั้นยาอีจะถูกส่งมาโดยพัสดุทางอากาศ เพื่อนำมาจำหน่ายให้ลูกค้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักเที่ยวกลางคืนและเยาวชนวัยเดียวกัน ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยทำการค้ามาตั้งแต่ปี 2559 สำหรับยาอีที่สั่งเข้ามาขายเฉลี่ย 20,000-30,000 เม็ดต่อเดือน
“สำหรับในครั้งนี้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้สั่งซื้อยาอีเข้ามารวม 35,000 เม็ด และแบ่งการขนส่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรก 10,000 เม็ด (ถูกจับยึดในครั้งนี้) ส่วนที่สอง 25,000 เม็ด อยู่ระหว่างการขนส่ง ซึ่งจะจับยึดเพิ่มเติมเมื่อเดินทางมาถึง เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้จึงนำตัวไปตรวจค้นเพิ่มเติมยังห้องซึ่งผู้ต้องหาเช่าอพาร์ตเมนต์ ย่านรัตนาธิเบศร์ พบเครื่องอัดเม็ดยาอี หัวตอก เครื่องชั่งน้ำหนัก ไอซ์ และผงผสมอัดเม็ดยาอีซุกซ่อนในห้องดังกล่าว ผู้ต้องหารับว่าพยายามที่จะอัดเม็ดยาอีออกมาจำหน่ายเองแทนการสั่งซื้อจากต่างประเทศ จากนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาและจับตัวส่งดำเนินคดี" เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว
นายนิยม เผยต่อว่า ยาอีที่จำหน่ายในประเทศไทยเกือบทั้งหมดนำเข้าจากต่างประเทศ เครือข่ายยาอีที่นอกจากจะพบนักค้าชาวไทย ยังมีกลุ่มชาวแอฟฟริกันตะวันตก ชาวรัสเซีย และ ชาวจีน ร่วมกับคนไทย กระบวนการค้าจะทำโดยใช้การสั่งซื้อจากเว็บไซต์ใต้ดิน โดยแหล่งต้นทางอยู่ในประเทศทางทวีปยุโรป ใช้เงินดิจิทัลทำการซื้อขายกัน และใช้การจัดส่งทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ โดยในห้วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จับกุมได้ 25 คดี ผู้ต้องหา 22 คน ของกลางยาอีรวม 268,312 เม็ด ส่วนใหญ่มาจากเยอรมนี มากที่สุดรวม 15 คดี รองลงมา ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ 3 คดี โปรตุเกส 3 คดี ฝรั่งเศส 2 คดี เบลเยียมและสโลเวเนีย อีกประเทศละ 1 คดี
นายนิยม กล่าวเพิ่มว่า แม้กระบวนการกระทำผิดจะมีความสลับซับซ้อนและยากต่อการเข้าถึง แต่ด้วยการดำเนินงานตามนโยบายขอ งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และข้อเน้นย้ำของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้มีการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อปราบปรามการค้ายาเสพติด นำมาซึ่งความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และผู้ประกอบการภาคเอกชน จนนำไปสู่การจับผู้กระทำความผิดและยึดยาอีที่ถูกลักลอบส่งเข้ามาได้จำนวนมาก จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานมาในโอกาสนี้ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็น หรือสงสัยบุคคลที่มีพฤติกรรม เข้าไปเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติด ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง