MGR Online - รวบ 2 สาวนำเข้าหน้ากากอนามัยจากประเทศจีน ขายเกินราคา ชิ้นละ 11.5 บาท ทั้งที่ต้นทุนเพียงชิ้นละ 1-3 บาทเท่านั้น ยึดของกลาง 5 แสนชิ้น
วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบช.สทส.ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา รอง ผบช.สทส.ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเทคนิคและสืบสวน ศปอส.ตร. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. และ นายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบและปฏิบัติการ กรมการค้าภายใน ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายกักตุนหน้ากากอนามัย และจำหน่ายในราคาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จำนวน 2 ราย ได้แก่ นางสลิล หรือ กิ๊ฟ ปันศรี อายุ 56 ปี และ น.ส.วีณ์รฐา หรือ น้ำ วิภารัตนเศรษฐ์ อายุ 55 ปี พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 5 แสนชิ้น
พล.ต.ท.ชวลิต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเทคนิคและสืบสวน ศปอส.ตร. สืบสวนพบว่า มีกระบวนการนำเข้าหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศ แล้วลักลอบจำหน่ายในปริมาณมาก ในลักษณะการขายส่งในราคาแพงกว่าที่กฎหมายกำหนด เมื่อผู้ค้ารายย่อยมาซื้อไปแล้ว จะนำไปขายต่อให้กับผู้ค้ารายอื่น หรือขายให้กับประชาชนทั่วไป ก็จะมีการบวกกำไรอีกเป็นทอดๆ ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก เป็นการซ้ำเติม สร้างความเดือดร้อนประชาชนทั่วไป ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้หน้ากากอนามัย จึงได้ประสานงานกับ บก.ปคบ. และกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมดำเนินการ โดยได้ให้สายลับแฝงตัวไปอยู่ในกลุ่มผู้ค้าหน้ากากอนามัย ต่อมา นางสลิล ได้ติดต่อกับสายลับ อ้างมาว่า สามารถหาหน้ากากอนามัยมาจำหน่ายจำนวนมากกว่า 10 ล้านชิ้น ให้สายลับหานายทุนมาซื้อ ชุดสืบสวนจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อวางแผนการล่อซื้อ
พล.ต.ท.ชวลิต กล่าวว่า ต่อมาในวันที่ 18 เม.ย.ได้ติดต่อสั่งซื้อหน้ากากอนามัยจาก น.ส.วีณ์รฐา โดยมี นางสลิล เป็นนายหน้า ได้ตกลงจะซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 1,000,000 ชิ้น ในราคาชิ้นละ 11.50 บาท รวมเป็นเงิน 11.5 ล้านบาท นัดหมายรับสินค้ากันในวันที่ 19 เม.ย.กระทั่งเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.ปคบ.และ กรมการค้าภายใน สามารถล่อซื้อจับกุม นางสลิล และ น.ส.วีณ์รฐา ได้ที่บริษัท กานต์สลิลซัพพลายเออร์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ 3/354 ซอยเทพนิมิตรเหนือ ถนนเอกชัย-บางบอน แขวงบางบอน เขตบางบอน พร้อมของกลาง หน้ากากอนามัยประมาณ 5 แสนชิ้น สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพ ว่า สินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากประเทศจีน และทำเป็นครั้งแรก โดยเบื้องต้นรับว่านำเข้ามาถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่ประแด็นสำคัญคือผู้ต้องหานำมาขายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ประกอบกับประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการหน้ากากอนามัย จงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วน ซึ่งราคาของสินค้า อันมีความผิดมาตรา 29 และมีโทษตามมาตรา 41 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ เป็นผู้ผลิตไม่แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย แผนการผลิต กระบวนการผลิต และวิธีการจำหน่ายสินค้าหรือบริการควบคุมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ อันมีความผิดมาตรา 25 และมีโทษตามมาตรา 38 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละสองพันบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง
ด้าน นายชาตรี กล่าวว่า สำหรับราคาหน้ากากอนามัย มีประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าบริการ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ผลิตในประเทศราคาอยู่ที่ 2.50 บาท หากขายเกินราคาดังกล่าวจะมีความผิดตามประกาศควบคุม ส่วนของกลางที่ยึดได้ในครั้งนี้ ต้นทุนนำเข้าสามารถบวกได้ราคาได้อีกร้อยละ 10 และเมื่อไปถึงมือผู้ค้าส่ง จนถึงมือผู้ค้าปลีก สามารถบวกราคาได้อีก ร้อยละ 23 สรุปว่า หากสินค้านำเข้ามา 1 บาท สามารถขายได้ในราคา 1.60 บาท แต่ราคาที่จับได้ในครั้งนี้ถือว่าเป็นราคาที่สูงพอสมควร กรมการค้าภายในมีข้อมูลเปรียบเทียบหน้ากากอนามัยที่มาจากประเทศจีน จะมีราคาตั้งแต่ 1 บาท ถึง 3 บาทเท่านั้น