MGR Online - เลขาธิการ ป.ป.ส.เผยมาตรการป้องกันยาเสพติด 5 ด้าน “พื้นที่ปลอดภัย-ชุมชนนำร่อง-ลดพื้นที่มั่วสุม-สร้างการรับรู้” เน้นกลุ่มเยาวชนเป็นผู้เสพหน้าใหม่
วันนี้ (14 เม.ย.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) รายงานผลการดำเนินงานด้านการป้องกันยาเสพติดในห้วงระยะ 9 เดือน (ก.ค. 62 - มี.ค. 63) ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 62 โดยได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วน สำหรับด้านการป้องกันยาเสพติดได้มีการเน้นให้สร้างการรับรู้และความเข้าใจถึงโทษพิษภัยของยาเสพติดให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดในทุกลักษณะ ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้นำนโยบายสู่การปฏิบัติดังนี้
1. การสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ภายใต้แนวคิด “ตำบลมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด” ด้วยการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน สร้างความเชื่อมโยงระหว่างชุมชน สถานศึกษา สถานประกอบการ และศาสนสถานในพื้นที่ ทั้งด้านการป้องกัน เฝ้าระวังปัญหา และการบำบัดรักษาในชุมชน โดยสามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยได้แล้วจำนวน 1,953 ตำบล 41 เขต (เป้าหมาย 7,255 ตำบล 50 เขตทั่วประเทศ)
2. การสร้างแนวป้องกันและเฝ้าระวังยาเสพติดในหมู่บ้านชุมชนนำร่องในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด (ตาก พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ และกำแพงเพชร) เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงและลดการค้ายาเสพติดผ่านเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ด้วยการสร้างให้สมาชิกในหมู่บ้านชุมชนมีสวนร่วมในการดำเนินงานโดยผ่านกลไกผู้นำชุมชน (ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน อาสาสมัคร) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน โดยได้เริ่มดำเนินการแล้วใน 65 อำเภอ 522/11 ตำบล/เทศบาล 6,009 หมู่บ้านชุมชน และมีการขับเคลื่อนกิจกรรมไปแล้ว 5,280 หมู่บ้านชุมชน
3. การลดพื้นที่เสี่ยงเพื่อป้องกันการมั่วสุมของเด็กและเยาวชน ด้วยการตรวจสถานบริการ 124 แห่งในจำนวนดังกล่าวพักใบอนุญาต 1 แห่ง สั่งปิดชั่วคราว 18 แห่ง และดำเนินคดีต่อเจ้าของ 69 ราย นอกจากนี้ยังดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านชุมชนที่เป็นแหล่งแพร่ระบาด 4,209 แห่ง เพื่อลดโอกาสการเข้าถึงยาเสพติดของเด็กและเยาวชน
4. การสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดเพื่อลดผู้เสพรายใหม่ โดยมุ่งเน้นกลุ่มประชากรวัยเสี่ยงสูงช่วงอายุ 15-24 ปี ด้วยการรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารภายใต้แนวคิดคือ “พื้นที่ปลอดภัย (Save Zone) วงการนี้ไม่ต้องการคนหน้าใหม่ (No New Face)” ผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้งจัดกิจกรรมเสริมทักษะการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ด้วยการร่วมมือกับหน่วยภาคีได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย 707,505 คน การสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มเด็กเยาวชนโดยเป็นแบ่งระดับปฐมวัย 891,537 คน ระดับประถมศึกษา 2,170,493 คน ระดับมัธยม อาชีวะ อุดมศึกษา 2,345,797 คน และเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษา 32,954 คน และกลุ่มแรงงานในสถานประกอบการ 684,802 คน
5. การสร้างการรับรู้ ความตระหนักและความเข้าใจถึงปัญหายาเสพติดแก่ประชาชนทั่วในหมู่บ้านชุมชน ด้วยการสื่อสารผ่านหอกระจายข่าว เสียงตามสาย และเครือข่ายการทำงานด้านยาเสพติด สามารถเข้าถึงกลุ่มประชาชนในหมู่บ้านชุมชน 35,397 แห่ง 25,472,108 ราย ผลการสำรวจสภาพปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้านชุมชน (รอบที่ 1/2563) พบว่าหมู่บ้านชุมชน จาก 82,149 แห่ง ไม่มีปัญหายาเสพติด ร้อยละ 73.13 หรือ 60,073 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการสำรวจในรอบปีที่ผ่านมา 2,446 แห่งหรือร้อยละ 2.96 ขณะที่ยังมีหมู่บ้านชุมชนที่มีปัญหาน้อยร้อยละ 15.17 มีปัญหาปานกลางร้อยละ 4.60 และมีปัญหามากร้อยละ 7.10 ซึ่งต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป ในขณะที่จำนวนผู้เสพยาเสพติดใหม่ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาร้อยละ 16
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า “การป้องกันยาเสพติด” มีความสำคัญมากที่สุดและมีผลต่อระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติด เพราะหากการป้องกันมีประสิทธิภาพจะทำให้มีผู้เสพรายใหม่และผู้ผ่านการบำบัดรักษาที่กลับไปเสพซ้ำลดลง เมื่อความต้องการยาเสพติดลดลงก็เชื่อว่าการค้าจะลดตามลงด้วย ดังนั้น การดำเนินทุกวิถีทางที่จะให้เด็กเยาวชนและประชาชนทั่วไปรับรู้และเข้าใจถึงทาพิษภัยและผลกระทบอันเกิดจากยาเสพติดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะเดียวกันทุกภาคส่วนต้องมีส่วนสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในกับสมาชิกในครอบครัวและในองค์กรของตนเอง เพราะหน่วยงานรัฐไม่สามารถทำได้โดยลำพัง ดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของชาติ และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แจ้งเบาะแสยาเสพติด ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง