MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผย หลังผ่านช่วงอะลุ่มอล่วย จับกุมผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวทั่วประเทศกว่า 1 พันราย ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอาศัยช่วงปิดเทอมออกมามั่วสุมดื่มสุรา เสพยาเสพติด
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เปิดเผยผลการจับกุมผู้ฝ่าฝืนตามประกาศเคอร์ฟิว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. ที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง หลังมีการอะลุ้มอล่วยในช่วง 3 วันแรก พบว่า มีการจับกุมเพิ่มขึ้นวันละกว่า 1,000 ราย โดยในพื้นที่ กทม.จับกุมกว่า 100 ราย ต่อวันน้อยกว่าต่างจังหวัด ขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดที่มีจับกุมมากสุดคือ พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 และภาค 4 โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาปิดเทอม ทำให้ออกมารวมกลุ่มและกลุ่มคนที่ไปงานเลี้ยงดื่มสุรา รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเสพยาเสพติด ทำให้ขาดสติไม่รู้เวลา โดยเจ้าหน้าที่จะมีวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มผู้ฝ่าฝืนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมยืนยันตำรวจดำเนินกับทุกคนที่ฝ่าฝืนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมไม่มีข้อยกเว้นให้กับบุคคลใด
“ได้มีการกำชับเจ้าหน้าทีประจำด่านตรวจทำงานให้เร็วขึ้น กรณีเจอคนที่ตั้งใจฝ่าฝืนอาจเป็นมิจฉาชีพ ต้องมีการระมัดระวังตัว พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วในการติดตามจับกุม ขณะเดียวกัน ฝากเตือนไปยังประชาชนให้เผื่อเวลาในเดินทางกลับบ้านให้ทันช่วงเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น.และลดโอกาสการติดเชื้อด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมืออยู่เสมอ” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุ
มีรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) รายงานผลการดำเนินการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ภาพรวมการปฏิบัติ ในคืนวันที่ 7 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข และอาสาสมัครต่างๆ มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และชุดสายตรวจร่วม ทั่วประเทศ รวมจำนวน 924 จุด ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 18,793 คน มีการตรวจค้นบุคคลทั้งหมด 27,731 คน ตรวจค้นยานพาหนะทั้งหมด 20,977 คัน ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้ที่มีเหตุผลและความจำเป็น คือ เป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ขนส่งสินค้าทางการเกษตร การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการแพทย์ ตามลำดับ
“กรณีผู้ฝ่าฝืนไม่มีเหตุผลการเดินทางช่วงประกาศห้าม ประจำวันที่ 7 เมษายน เวลา 22.00 น. - วันที่ 8 เมษายน เวลา 04.00 น. มีผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน และรวมกลุ่มชุมนุม ทั้งสิ้น 1,156 คน ดำเนินคดี 1,021 คน ตักเตือน 135 คน ผู้ถูกดำเนินคดีสูงสุดอยู่ในพื้นที่ภูธรภาค 7 จำนวน 172 คน” รายงานระบุ