MGR Online - “ทนายรัชพล” พาเน็ตไอดอลร้องเรียน ผบช.น.เอาผิดตำรวจ สน.ท่าพระ ตั้งด่านไถเงิน 1.5 หมื่นบาท หลังผลตรวจปัสสาวะสีม่วง เจ้าตัวยันไม่เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กิตติศักดิ์ ชูเพียร” โพสต์ข้อความพร้อมคลิปเสียงระบุว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เวลา 01.00 น. ขณะขับรถได้เจอด่านตรวจของ สน.ท่าพระ บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 7 ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ขอตรวจปัสสาวะผลตรวจปรากฏว่าเป็นสีม่วง จากนั้นตำรวจได้เรียกเงินจำนวน 15,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว เบื้องต้น พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 นาย มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.น.7
วันนี้ (30 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายกิตติศักดิ์ ชูเพียร ดีเจอิสระ และเน็ตไอดอล พร้อมนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ และประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.เพื่อดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัยต่อตำรวจ สน.ท่าพระ 4 นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำนวจยศ ร.ต.ท., ด.ต., ส.ต.อ., ส.ต.ท. และอาสาสมัครตำรวจบ้าน 2 นาย
นายรัชพลกล่าวว่า นายกิตติศักดิ์ได้ติดต่อไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ได้แนะนำให้เข้ามาพบ ผบช.น.ในวันนี้ เวลา 10.00 น. เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. ขอตรวจเลือดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เสพยาเสพติด 2. ให้ลงโทษทางวินัยต่อตำรวจที่กระทำผิดทุกนาย และ 3. แจ้งความดำเนินคดีอาญาเอาผิดให้ถึงที่สุด ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วไปตรวจเลือดที่ รพ.วิชัยเวช (หนองแขม) ผลยืนยันว่า มีสารเมทแอมเฟตามีนอยู่ภายในร่างกายได้อย่างไร
หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อกระทรวงสาธารณะสุข (สธ.) ขอให้ตรวจสอบ รพ.ดังกล่าวด้วย ความผิดที่แจ้งความดำเนินคดีมี 3 ข้อหา คือ 1. กักขังหน่วงเหนี่ยว 2. กรรโชกทรัพย์ และ 3. แกล้งให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งต้องรับผิดทางอาญา มีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ปรับ 4 แสนบาท และจะเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมด้วย ส่วนตำรวจที่เอาผิดมี ประมาณ 7-8 นาย ในจำนวนนี้มีอาสาสมัครตำรวจบ้านด้วย
ด้านนายกิตติศักดิ์กล่าวว่า ตนพบเห็นความผิดปกติตั้งแต่ตอนแรก เนื่องจากผลตรวจปัสสาวะที่ด่านตรวจขึ้นจางๆ หมายถึงว่าไม่ทราบผล ตำรวจได้เสนอให้ตนไปตรวจที่ รพ.วิชัยเวช ตนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากตรวจเสร็จเจ้าหน้าที่ รพ.ไม่ได้เปิดผลตรวจให้ตนดู จึงขับรถจะกลับมาที่ด่าน ระหว่างนั้นได้เจอด่านความมั่นคงเลยขอตรวจซ้ำอีกรอบไม่เป็นสีม่วง ตนโทร.มาบอกกับตำรวจที่ด่านว่าผลตรวจที่ด่านความมั่นคง ไม่พบปัสสาวะสีม่วงมันยังไงกันแน่ ตำรวจบอกทำนองว่ามีอะไรค่อยๆ คุยกัน ใจเย็นๆ จากนั้นตนไปตรวจอีก รพ.เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ผลออกมาไม่เป็นสีม่วงเช่นกัน เมื่อขับรถกลับมาที่ด่านตำรวจบอกผลตรวจจาก รพ.วิชัยเวช ว่าเป็นบวกแสดงว่าปัสสาวะสีม่วง ระยะเวลาการตรวจจากครั้งแรกถึงครั้งหลังสุด ใช้เวลาไม่กิน 4 ชม. แต่ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ก่อนหน้านี้ได้กินยาไอยาฟิน (IYAFIN) ซึ่งได้ถามเภสัชกรแล้วว่ายาดังกล่าวทำให้ปัสสาวะมีสีม่วงหรือไม่ เภสัชยืนยันว่าไม่ทำให้เป็นสีม่วงแน่นอน
ต่อมาตำรวจได้เรียกเงินจำนวน 30,000 บาท ตนถามว่าค่าอะไร ตำรวจตอบว่าจะได้กลับบ้าน ตนไม่ได้เป็นคนเสนอก่อนอย่างที่เป็นข่าวจึงได้ปฏิเสธไป พอด่านใกล้เลิก ตำรวจเสนออีกครั้งจำนวน 20,000 บาท ตนได้ปฏิเสธเช่นเดิม ต่อมาชุดจับกุมส่งคนมาคุยต่อรองจนเหลือจำนวน 15,000 บาท โดยบอกว่าทุกอย่างจบ นายเขาก็พอใจ ซึ่งนายหมายถึงหัวหน้าชุดจับกุม พอด่านเลิก ตำรวจได้นำตนไปที่ สน.ท่าพระ เพื่อไกล่เกลี่ยซึ่งเพื่อนของตนไปด้วย
“เพื่อนบอกว่าอยากให้จ่ายเงินไปจะได้จบ เพราะ 1. ไม่อยากให้มีคดียาเสพติดติดตัว 2. ผมไม่มีพรรคพวก ไม่มีกฎหมายในมือ และ 3. พนักงานสอบจะเขียนสำนวนให้ผิดถูกอย่างไรก็ได้ ผมติดใจตั้งแต่แรกแล้วเลยบอกกับเพื่อนว่า ยังไงก็ไม่ยอมเสียเงิน ปล่อยให้ถูกดำเนินคดีไป แล้วค่อยออกมาสู้กันทางกฎหมาย” เน็ตไอดอลกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า วันนี้นายกิตติศักดิ์พร้อมทนายความได้เข้ามาพบเพื่อชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงให้ทราบ นายกิตติศักดิ์ยืนยันว่าตัวเขาเองไม่ได้เสพยาเสพติด แล้วเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงตามที่สื่อได้นำเสนอ บช.น.ได้รับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวไว้ในการดำเนินคดีต่อตำรวจที่เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งคณะกรรมดำเนินการทางวินัย และได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นายไปปฏิบัติหน้าราชการที่ ศปก.บก.น.7
หลังจากสอบปากคำเสร็จ นายกิตติศักดิ์ได้สมัครใจให้ตำรวจนำตัวไปตรวจปัสสาวะ และตรวจเลือดที่ รพ.ตำรวจ เพื่อนำผลมาประกอบสำนวนการสอบสวน บช.น.ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมาย เรื่องดังกล่าวทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับมาตลอดใครผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนประวัติการร้องเรียนของตำรวจทั้ง 4 นายก่อนหน้านี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ และตัวผู้เสียหายก็ไม่พบว่าเคยกระทำความผิด
“เบื้องต้นจากการสอบถามตำรวจทั้ง 4 นาย ได้ปฏิเสธในเรื่องดังกล่าว หลังจากนี้จะทำการสอบปากคำนายกิตติศักดิ์ เพิ่มเติมที่ บช.น. ขอเวลาในการตรวจสอบ คาดว่าใช้เวลาไม่นาน เราให้ความเป็นธรรมทั้งตำรวจและผู้เสียหาย” ผบช.น.กล่าว