MGR Online - รองโฆษก ตร.ยืนยันเครื่องวัดแอลกอฮอล์ของ ตร.ใช้หลอดใหม่ทุกครั้งในการเป่า ใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง ก่อนและหลังใช้ ขอ ปชช.มั่นใจไม่ติดโควิด-19
วันนี้ (15 มี.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดีย ตั้งประเด็นคำถามถึงมาตรการการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด โดยวิธีเป่าลมหายใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงที่มีการเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ว่า จากกรณีสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่มีการระบาดนั้น ทำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและกังวลในเรื่องการติดเชื้อดังกล่าว จึงอาจทำให้เกิดปัญหาไม่กล้าเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ตรวจวัดตามจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุการเมาแล้วขับ
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปกำชับและกำกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดมาตรการและแนวทางการปฏิบัติในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่นั้น ได้กำชับให้สวมถุงมือทุกครั้ง และล้างมือบ่อยๆ โดยให้ผู้ถูกตรวจฉีกซองของหลอดเป่าเอง เพื่อให้ผู้ถูกตรวจมั่นใจว่าเป็นหลอดใหม่ ไม่ได้ใช้ซ้ำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องตรวจด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งก่อนและหลังใช้ทุกราย โดยหลังจากตรวจวัดเสร็จแล้ว ให้ทิ้งหลอดเป่าที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปิดมิดชิด
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอลล์ด้วยเครื่องเป่านั้น เจ้าหน้าที่จะสังเกตเฉพาะผู้ขับขี่ที่มีกลิ่นสุรา หรือพูดจาลักษณะคล้ายคนเมาสุรา เจ้าหน้าที่จึงจะขอทำการตรวจสอบโดยเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมา โดยขณะนี้ผู้บังคับบัญชาในทุกพื้นที่มีการลงไปกำกับดูแล ตรวจสอบความพร้อม อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชน ในห้วงที่มีการเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อ covid-19
อีกทั้งสำหรับมาตรการดังกล่าวนั้น เป็นมาตรการที่จะดำเนินการตลอดทั้งปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้คนเมาไปขับรถ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ร่วมทาง ซึ่งจากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตทางจราจรนั้น พบว่า สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุยังคงเป็นการดื่มแล้วขับ ประกอบกับในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ปี 2563 ที่จะถึงนี้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มแล้วขับ
ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในการใช้เครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด โดยวิธีเป่าลมหายใจดังกล่าว และขอให้ความร่วมมือ และเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดความปลอดภัย