xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ยธ.เอาจริง! ตั้งศูนย์ฯ ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ตัดวงจรตั้งแต่รายย่อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - สมศักดิ์ มอบนโยบายศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด เอาแบบถอนรากถอนโค่น ระบุในอดีตยึดได้เพียง 4-5 ร้อยล้านบาทต่อปี ถือว่าน้อยไป ต้องได้มากกว่านี้

วันนี้ (28 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.ช.) มอบนโยบายการดำเนินงานของ “ศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายการค้ายาเสพติด” ตามคำสั่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ที่ 5/2563 โดยมีนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานกรรมการ พร้อมด้วยกรรมการ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสรรพากร เข้าร่วมรับมอบนโยบาย พร้อมประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด

นายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในการเร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติด ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกัน คณะอนุกรรมการปราบปราม และคณะอนุกรรมการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแล้ว ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงเห็นควรขยายไปถึงการติดตามยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อทำลายวงจรการค้ายาเสพติด และเพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือให้เกิดการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการไปสู่เป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดขึ้น โดยมีเลขาธิการ ป.ป.ส.เป็นประธานกรรมการ และมีหน่วยงานบูรณาการที่เข้าร่วมประชุมฯ เป็นกรรมการ โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการนำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางและมาตรการในการปราบปรามยาเสพติดของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ไปสู่การปฏิบัติ อำนวยการให้มีการปฏิบัติการสืบสวนปราบปราม ขยายผลและนำมาตรการสมคบ สนับสนุนหรือช่วยเหลือ และมาตรการริบทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 และมาตรการทางกฎหมายอื่น เช่น กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน มาใช้เพื่อทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด ตามแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดส่วนกลาง และระดับพื้นที่

“โดยการสืบสวนทางการข่าวและการนำเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ เข้ามาช่วยในการขยายผลจับกุม ประสานงาน สั่งการ เร่งรัด กำกับดูแล ตรวจสอบและติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามและยึดทรัพย์สินตามแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ส่วนกลางและระดับพื้นที่ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดภาคหรือจังหวัด และแต่งตั้งชุดปฏิบัติการสืบสวนยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดภาคหรือจังหวัดตามที่เห็นสมควรต่อไป”

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ศูนย์ดังกล่าวจะตามยึดทรัพย์เครือข่ายตั้งแต่ระดับรายเล็กเนื่องจากแหล่งผลิตยาเสพติดประเทศเพื่อนบ้าน มีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แม้ประเทศไทย มีผู้เสพติดลดลงแต่ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ในอดีตที่ผ่านมา การยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ช่วง 1 ปี ได้ประมาณ 400-500 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขน้อยเกินไปและมีการเล็ดลอดออกไป จึงต้องเข้มงวดกว่านี้ จึงเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือนโยบายแก้กฎหมาย ส่วนขบวนการยาเสพติดใช้ธุรกรรมการเงินมากขึ้นจะต้องใช้เทคโนโลยีติดตามจับกุม

รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC มีการลำเลียงสารตั้งต้นและยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก จึงต้องมีการดำเนินการตรวจสอบยึดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้องแบบถอนรากถอนโคนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น