MGR Online - ป.ป.ส. เผย หน่วยงานปราบปรามยาเสพติดเมียนมา เข้าจับกุมเครือข่ายผลิตยาบ้ารายใหญ่ในรัฐฉานเหนือ เป็นเขตผู้มีอิทธิพลและยากต่อการเข้าถึง เชื่อมีผลกระทบต่อขบวนการค้ายาเสพติด
วันนี้ (25 ก.พ.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า แผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ยังดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 23 ก.พ.63 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (CCDAC) ว่าหน่วยปราบปรามยาเสพติดเมียนมา ร่วมกับกองกำลังทหารในรัฐฉานเหนือ เข้าทำลายแหล่งผลิตเม็ดยาบ้าแหล่งใหญ่ในเขตเมืองกุ๊ตไข่ ยึดเครื่องอัดเม็ดยาบ้าชนิดโรตารี รวม 8 เครื่อง ยาบ้า 34,500 เม็ด ผงยาบ้า 3.5 กิโลกรัม และกาเฟอีน 9 กิโลกรัม รวมทั้งสารเคมี หัวตอกอะไหล่ และอุปกรณ์การผลิตอื่น ๆ อีกหลายรายการ ทั้งนี้ เครื่องอัดเม็ดยาบ้าที่ทางการเมียนมายึดได้ดังกล่าวต่อหนึ่งเครื่องสามารถผลิตยาบ้าได้อย่างน้อยชั่วโมงละ 18,000 เม็ด หากทำงานพร้อมกันทั้ง 8 เครื่อง จะผลิตยาบ้าได้ถึง 3,456,000 เม็ดต่อวัน ประการสำคัญแหล่งผลิตที่ถูกทำลายครั้งนี้ ตั้งอยู่รัฐฉานตอนเหนือในพื้นที่อิทธิพลของกลุ่มชนเผ่าติดอาวุธซึ่งยากต่อการเข้าถึง และเมื่อพิจารณาประกอบกับก่อนหน้านี้มีการยึดสารเคมีจำนวนมากที่ใช้ในการผลิตยาบ้า การปฏิบัติการครั้งนี้เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อขบวนการค้ายาเสพติดอย่างแน่นอน
นายนิยม กล่าวต่อว่า แผนปฏิบัติการ 1511 ร่วมกัน 6 ประเทศ ได้ส่งผลอย่างชัดเจนทั้งในมิติของการสกัดกั้นเคมีภัณฑ์ สารตั้งต้นไม่ให้เข้าไปแหล่งผลิต การค้นหาทำลายแหล่งผลิต และการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ออกจากแหล่งผลิต โดยนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.62 ประเทศสมาชิกปฏิบัติการรวม 1,848 ครั้ง ยึดยาบ้า 55.2 ล้านเม็ด ไอซ์ 6.2 ตัน เฮโรอีน 470 กก. คีตามีน 517 กก. และเคมีภัณฑ์รวมประมาณ 62 ตัน ทั้งนี้ จากการประชุมร่วมของประเทศสมาชิก เมื่อต้นเดือน ก.พ.63 ทุกประเทศเห็นพ้องร่วมกันให้มีการขยายระยะเวลาปฏิบัติการระยะที่ 1 ไปถึงเดือน มี.ค.63
"สำหรับไทย ได้ร่วมกับ 2 ประเทศ คือ เมียนมา และ สปป.ลาว ได้ทำการสกัดกั้นอย่างเข้มงวดตามรอยต่อชายแดน มีผลให้ขบวนการค้ายาเสพติดต้องเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงจากภาคเหนือของประเทศไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตก ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. จะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนดังกล่าวมากขึ้นต่อไป หากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง"