MGR online - เลขาฯ ป.ป.ส. เผย “ปฏิบัติการ 1511” ยึด Sodium Ethoxide กว่า 12.4 ตัน ในรัฐฉานตอนเหนือ ประเทศเมียนมา สถิติ 2 เดือน ยึดสารเคมีผลิตยาเสพติดกว่า 62 ตัน หยุดการผลิตยาบ้า 1,358 ล้านเม็ด หรือไอซ์ 32 ตัน
วันนี้ (6 ก.พ.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (CCDAC) ทำการตรวจยึด Sodium Ethoxide กว่า 12.4 ตัน ในพื้นที่รัฐฉานตอนเหนือ ก่อนถูกลำเลียงเข้าไปแหล่งผลิตในพื้นที่รัฐฉาน ซึ่งเป็นผลจากการปฏิบัติตามแผน "ปฏิบัติการ 1511" ซึ่งประเทศไทยเป็นแกนหลักร่วมกับ 5 ประเทศลุ่มน้ำโขง ซึ่งแผนดังกล่าวประเทศไทยได้เสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีของ 5 ประเทศลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย จีน กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม เห็นชอบร่วมกันเพื่อสกัดกั้นเคมีภัณฑ์ สารตั้งต้นไม่ให้ เข้าไปยังแหล่งผลิต และสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ออกจากแหล่งผลิต
นายนิยม กล่าวอีกว่า สำหรับ Sodium Ethoxide ที่จับยึดได้ครั้งนี้ เป็นสารเคมีสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตยาเสพติดประเภทสารสังเคราะห์ที่ออกฤทธิ์ประตุ้นประสาท เช่น ไอซ์ หรือยาบ้า โดยใช้ทดแทนสารตั้งต้นเดิมที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด และจำนวน 12.4 ตันดังกล่าว ประมาณการว่าหากเล็ดลอดไปได้จะสามารถนำไปผลิตไอซ์ได้ไม่น้อยกว่า 11 ตัน หรือผลิตยาบ้าได้ไม่น้อยกว่า 740 ล้านเม็ด เมื่อพิจารณาประกอบกับก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ CCDAC ของเมียนมาก็จับยึดกาเฟอีนได้กว่า 1 ตัน ซึ่งถือเป็นการลดทอนศักยภาพการผลิตทั้งไอซ์และยาบ้าได้เป็นจำนวนมาก และคาดว่าน่าจะมีผลต่อปริมาณยาเสพติดในตลาดและราคายาเสพติดไม่มากก็น้อย
"สำนักงาน ป.ป.ส. ขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับผลการปฏิบัติของเมียนมา ที่ได้ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 อย่างเข้มแข็ง จนมีผลการยึดยาเสพติดและสารเคมีได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรอบ 2 เดือนเศษมานี้ เฉพาะในเมียนมา สามารถยึดสารเคมีไปแล้วกว่า 52.1 ตัน มีผลให้ยาเสพติดจำนวนมหาศาลไม่ถูกผลิตขึ้นและถูกส่งออกมากระจายแพร่ระบาดในประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม แผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ของ 6 ประเทศ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.62 สามารถยึดสารเคมีสำคัญที่นำไปใช้ในการผลิตยาเสพติด รวมกว่า 62 ตัน เท่ากับหยุดการผลิตยาบ้าได้ไม่น้อยกว่า 1,358 ล้านเม็ด หรือไอซ์ 32.4 ตัน ถือเป็นการตัดวงจรการผลิตยาเสพติดได้ตรงตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้สังคมไทยและสังคมโลกปลอดภัยจากยาเสพติด" เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว