MGR online - ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาชิงเงินกว่า 8 แสน จากแบงก์กรุงเทพ ในเทสโก้ โลตัส ย่านทุ่งครุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่แฟนสาวผู้ก่อเหตุยังปากแข็งไม่มีเอี่ยว ทั้งที่กล้องวงจรปิดจับภาพเป็นผู้ขับขี่ จยย.พาคนร้ายหนี
วันนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. และคณะ คุมตัว นายชัยวัฒน์ หรือ แอ้ มีชะคะ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ธนาคาร ออกจากห้องควบคุม สน.ทุ่งครุ เดินทางไปที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัส ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วน น.ส.ผกามาศ หรือ หนู ประดับวงษ์ อายุ 29 ปี แฟนสาวซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์พาหลบหนี ไม่ได้นำตัวไปด้วย เนื่องจากในชั้นสอบสวนขณะนี้ยังให้การปฏิเสธ
สำหรับบรรยากาศการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น มีประชาชนนับร้อยมาเฝ้าดูวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก โดย พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 ต้องสั่งการให้เจ้าหน้าที่ สน.ทุ่งครุ และ กก.สส.บก.น.8 นำกำลังมาดูแลความปลอดภัยให้ผู้ต้องหาอย่างแน่นหนา ซึ่งจุดที่ 1. ดำเนินการชี้ คือ จุดจอดรถ จยย.ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บริเวณลานจอดรถข้างห้าง 2. ดำเนินการชี้จุดประตูทางเข้าธนาคาร 3. ชี้จุดบริเวณเคาน์เตอร์รับฝากเงิน 4. ทำแผนประทุษกรรมขณะใช้อาวุธปืนของตัวเองจี้ชิงปืนลูกโม่ขนาด .38 ของ รปภ.ธนาคาร 5. ถ่ายภาพขณะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์รับฝากถอนเข้าไปโกยเงินสดจำนวน 807,500 บาท ใส่กระเป๋าเป้ก่อนหลบหนีออกไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รีบคุมตัว นายชัยวัฒน์ ขึ้นรถกระบะสายตรวจกลับโรงพักทันทีเพื่อสอบปากคำต่อ
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาขณะนี้ยอมรับว่า มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ มีความคุ้นเคยกับที่เกิดเหตุ และเคยมาดูลาดเลาก่อนแล้ว จึงวางแผนก่อเหตุชิงเงินครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยได้แบ่งเงินนำไปซื้อทองรูปพรรณกับพระเลี่ยมทองบางส่วน ส่วนเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย พบว่า หลังก่อเหตุคนร้ายได้นํารถ จยย.เสื้อผ้า หมวกนิรภัย และปืนของตัวเองที่อ้างว่าเป็นบีบีกัน ไปทิ้งไว้ที่คูน้ำข้างทางภายในซอยโปร่งอารมณ์ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน แล้วหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปกบดานย่านนิมิตรใหม่ โดยมีแฟนสาวขับรถยนต์พาไป อีกทั้งยังแบ่งเงินที่ได้จากการก่อเหตุบางส่วนไปฝากไว้กับพ่อแม่ ซึ่งตอนนี้ตำรวจยึดคืนมาได้แล้ว
มีรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหารายนี้ มีแรงจูงใจที่จำเป็นต้องก่อเหตุ คือ ที่ผ่านมา เจ้าตัวมีภรรยามาแล้ว 3 คน มีลูกอีก 5 คน ทำให้เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ประกอบกับไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ส่วน น.ส.ผกามาศ หรือ หนู ประดับวงษ์ อายุ 29 ปี แฟนสาวคนใหม่ ก็เป็นลูกสาวตำรวจชั้นประทวนนายหนึ่งในพื้นที่ บก.น.8 ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2559 เคยถูกเจ้าหน้าที่ สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ จับกุมข้อหานำรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาใช้ โดยขณะนั้นเจ้าตัวอ้างว่า เป็นรถของอดีตแฟนหนุ่มนำมาให้ใช้ อย่างไรก็ตาม แม้ น.ส.ผกามาศ จะให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ทั้ง 2 ราย ใช้หลบหนี ประกอบกับมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝงติดอยู่ที่วัตถุพยานหลายชิ้น ทำให้มั่นใจว่าสามารถดำเนินคดีทั้งคู่ได้อย่างแน่นอน