หนุ่มร้องขอความเป็นธรรม คดีตำรวจจับแพะจนติดคุก 19 วัน ข้อหาข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวเดนมาร์ก ต่อมาจับคนร้ายตัวจริงได้ แต่ตำรวจชุดจับกุมไม่แถลงข่าวแก้จับคนร้ายผิดตัว ปล่อยให้ตกเป็นจำเลยของสังคมมานานกว่า 6 ปี ไปสมัครงานที่ไหน ก็ไม่มีใครรับ
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 63 นายบรรเลง ฮวดเจริญ อายุ 40 ปี เดินทางเข้าพบ นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อขอให้ช่วยเหลือหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี จับกุมในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวสาวชาวเดนมาร์ก ถูกข่มขืนเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2557 และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำนาน 19 วัน ทั้งที่ตนไม่ใช่คนร้ายที่ก่อเหตุ พร้อมนำภาพกล้องวงจรปิดและเอกสารหลักฐานมามอบให้
นายบรรเลง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2557 ได้เกิดเหตุคนร้ายข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวเดนมาร์กในเขตพื้นที่ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ซึ่งวันดังกล่าวตนอยู่ที่ รพ.พาภรรยามาคลอดลูกอยู่ที่ จ.จันทบุรี ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาหาถามว่าตนอยู่ไหนไปทำอะไรไว้ให้เข้ามาคุยกันที่โรงพักหน่อย ตนจึงตอบว่าได้ แต่ต้องหลังจากพาภรรยาและลูกที่เพิ่งคลอดกลับบ้านก่อนแล้วจะเดินทางเข้าไปพบ จนกระทั่งวันที่ 29 ก.ย. 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาเชิญตัวจากบ้านของภรรยาใน จ.จันทบุรี พาตัวไปที่ สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อให้ผู้เสียหายชาวเดนมาร์กชี้ตัว ตอนแรกผู้เสียหายบอกว่าจำหน้าตาคนร้ายไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ตนถอดเสื้อผ้าออกจนเห็นอวัยวะเพศ ผู้เสียหายจึงชี้มาที่ตนบอกว่าจำอวัยวะเพศได้ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวและพยายามพูดจาข่มขู่บังคับให้ตนรับสารภาพ ซึ่งตนไม่ได้ทำ จึงปฏิเสธก็ถูกทำร้ายร่างกาย โดนเตะเข้าที่หน้าอกจนจุก ก่อนจะพาตนมาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากที่มารอทำข่าว ซึ่งตนก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำต่อหน้าสื่อมวลชน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวไปผัดฟ้องฝากขังที่เรือนจำนาน 19 วัน โดยใส่โซ่ตรวนขณะถูกคุมขังอยู่เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีจะไปทำเรื่องขอปล่อยตัวตนออกจากเรือนจำ เพราะตามจับคนร้ายตัวจริงได้แล้ว
หลังได้รับอิสรภาพได้ทำเรื่องร้องเรียนชุดจับกุมที่ทำร้ายร่างกาย และบังคับตนเองไปนั่งแถลงข่าว ทั้งที่ไม่ใช่คนร้าย ไปหลายหน่วยงาน ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เรื่องก็เงียบหายไป ซึ่งทุกวันนี้ข่าวที่ลงในวันนั้น ว่า ตนเป็นคนร้ายก็อยู่ในอินเทอร์เน็ต ใครค้นหาก็เจอ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไม่แถลงข่าวแก้ข่าวที่ว่าตนไม่ใช่คนร้ายให้สื่อมวลชนนำไปแก้ข่าวให้ถูกต้อง กลับปล่อยให้ตนเป็นจำเลยของสังคมมาตลอดนานกว่า 6 ปีแล้ว เวลาไปทำงานที่ไหนใครเห็นชื่อนามสกุลตน ก็ไม่กล้าจ้างงาน อย่าว่าแต่ตนเองเลย ลุงของตนที่ทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เขาก็ไม่จ้างอ้างว่าหลานชายไปข่มขืนเขามา เดี๋ยวจะมาก่อเหตุในบ้านลูกค้าอีก จึงตัดสินใจนำเรื่องมาร้องเรียนให้ทนายรณรงค์ให้ช่วยเหลือ
ด้าน นายรณรงค์ กล่าวว่า จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่นายบรรเลงนำมามอบให้ ซึ่งก็ระบุวันที่เวลาในวันก่อเหตุว่า นายบรรเลง อยู่ที่ร้านล้างรถแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี และภาพจาก รพ.ที่แสดงว่า เขาอยู่ที่ รพ.ไม่ใช่คนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนสาวชาวเดนมาร์ก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับคนร้ายตัวจริงที่ก่อเหตุได้แล้วอีกด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเขาวันนั้น ควรต้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือเขา แก้ข่าวให้กับเขา แต่กลับไม่มีการดำเนินการอะไร หลังจากนี้ จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปยื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ช่วยออกค่าฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจกับนายบรรเลงต่อไป