xs
xsm
sm
md
lg

พ่อผู้ต้องหาปาร์ตี้ยา ร้องลูกชายถูกเจ้าหน้าที่กระทืบบาดเจ็บบังคับให้สารภาพเป็นเจ้าของยาเสพติด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - พ่อผู้ต้องหาคดีจัดปาร์ตี้ยาเสพติด ร้องผ่านสื่อขอความเป็นธรรมลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง บุกชาร์จเข้าจับกุมโดยรุมกระทืบ บังคับให้สารภาพว่าเป็นเจ้าของยาเสพติด ในฐานะเป็นเจ้าของบ้าน โดยได้ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมแล้ว แจงลูกชายไม่ได้ขัดขืน แต่ถูกรุมกระทืบ 2 ครั้งวันเดียวกัน



วันนี้ (13 ม.ค.) นายธนกฤต สุขประเสริฐ อายุ 58 ปี ที่อยู่ 70 ม.1 ถนนบรรเจิดใจราช 2 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ได้เข้าพบกับผู้สื่อข่าวพร้อมนำเอกสารและภาพหลักฐานว่าบุตรชายไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐเข้ารุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าจับกุมกลุ่มผู้เสพยาซึ่งบุตรชายถูกบังคับให้รับสารภาพในเรื่องดังกล่าว และยังถูกจับกุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางนครปฐมขณะนี้

โดยนายธนกฤต กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นดังที่เคยปรากฏเป็นข่าวมาแล้วว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ได้มีชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จังหวัดนครปฐม สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.นครปฐม ฝ่ายปกครอง อ.เมืองนครปฐม ได้บุกเข้าตรวจสอบห้องเช่าเลขที่ 97/1 และห้องเช่าเลขที่ 95/17 ถ.ราชดำเนิน ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งได้เปิดเป็นห้องเช่าให้ซ้อมดนตรี และรับงานแสดงดนตรี ชื่อ Zad music

ได้ทำการจับกุม นายไพโรจน์ หรือเบียร์ สุขประเสริฐ อายุ 33 ปี บุตรชายของตนเอง พร้อมของกลางยาเสพติด และแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1( เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ถูกจับกุมอีกหลายรายในวันดังกล่าวด้วย ซึ่งตอนนี้นายไพโรจน์ หรือเบียร์ ได้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำกลางนครปฐม

นายธนกฤต กล่าวต่อว่า หลังจากลูกชายถูกจับกุมตนเองได้เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม และ สภ.เมืองนครปฐม พบว่ามีเจ้าหน้าที่หน่วยราชการของจังหวัดนครปฐม ประมาณ 20 คนเข้ามาทำการบันทึกการจับกุมเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ผิดสังเกตคือ สภาพใบหน้าของนายไพโรจน์ หรือเบียร์ บุตรชายมีร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำ โดยบุตรชายได้บอกว่าเจ็บที่ใบหน้า หน้าอก และซี่โครง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม

ในช่วงบ่ายของวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งต่อเนื่องจากการที่มีการบุกเข้าจับกุม โดยผลการแพทย์ได้ระบุว่า แผลบริเวณใบหน้า คาง ฟกช้ำอักเสบบริเวณหน้าท้อง มีความเห็นใช้ระยะเวลาในการรักษา 5 วันหากไม่มีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งทางบุตรชายได้บอกตนเองว่าอย่าให้เอาเรื่องกับใครเพราะกลัวเรื่องจะบานปลาย แต่ตนเองได้พยายามหาหลักฐานต่างๆ ซึ่งได้รับคำบอกเล่าว่า ช่วงเวลาที่ถูกทำร้ายร่างกาย นายไพโรจน์ หรือเบียร์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากข้างนอกและมาจอดรถ

ขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาชาร์จและมีการชกเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้งจนล้มลง ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่จากชุดจับกุมรวม 4 คน เข้ามารุมกระทืบ และนำตัวเข้าไปในห้องที่มีการจับกุมคนไว้ในนั้นก่อนหน้าแล้ว โดยได้มีการกระทืบอีกครั้งจากชายชุดเดิมเพื่อให้สารภาพว่ายาเสพติดที่อยู่ในห้องซ้อมดนตรีเป็นของตนเอง เพราะเป็นเจ้าบ้าน ซึ่งยาเสพติดนั้นได้ถูกทิ้งในถังขยะในห้องโดยไม่รู้ว่าเป็นของใคร และหลังจากที่เกิดเรื่องดังกล่าวตนเองได้เข้าไปตรวจสอบที่ห้องซ้อมดนตรี พบว่ากล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ด้านหน้าบ้านก็ได้ถูกดึงหักทำลายทิ้งไปด้วย ซึ่งตนเองเชื่อว่าในกล้องน่าจะมีภาพเหตุการณ์ของการทำร้ายร่างกายแต่ก็มาถูกทำลายไปอีก

นายธนกฤต กล่าวอีกว่า ในวันที่ 23 ธันวาคม 62 ตนเองได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครปฐม เพื่อให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครปฐม ที่ได้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นการทำเกินกว่าเหตุโดยทำร้ายร่างกายนายไพโรจน์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการต่อสู้หรือขัดขืนในการตรวจค้นและเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ

ซึ่งในส่วนของคดีในเรื่องการจับกุมยาเสพติดนั้นก็ขอให้ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ที่ผ่านมา นายไพโรจน์ เป็นคนทำมาหากินไม่ได้เป็นคนเกเรเป็นที่รู้ของคนในชุมชนดังกล่าว สิ่งที่ตนเองมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนวันนี้เพราะรับไม่ได้ที่บุตรชายมาโดนแบบนี้ และให้ทางจังหวัดนครปฐมมีการชี้แจงและเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ที่กระทำเรื่องดังกล่าว โดยอยากให้เอาออกจากราชการไป ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ต้องการมาเรียกเอาเงินเอาทองอย่างใด แต่ต้องการความยุติธรรมและเตรียมจะเดินหน้าเข้าแจ้งความเอาความผิดทางกฎหมายต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น