สาวพาชายฉกรรจ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบราว 10 คน บุกข่มขู่เอารถเก๋งยาริสจากแฟนผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าพบตำรวจ เบื้องต้นตั้งข้อหาบุกรุก หากพบว่าพกปืนด้วยก็จะดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน
จากกรณีที่นายประทีป มากคำ อายุ 63 ปี พร้อมด้วย น.ส.สมรักษ์ ภิรมย์พร อายุ 46 ปี (ภรรยา) ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ. สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กรณีถูก น.ส.น้ำค้าง (นามสมมติ) พร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบรวมกว่า 10 คน บุกเข้ามาที่บ้านเลขที่ 187/6 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 7 และวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา โดยข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายถ้าไม่นำรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ยาริส สีขาว ทะเบียน 1 กร 4285 กรุงเทพมหานคร มาคืนให้
ล่าสุด พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า หลังจากที่มีการนำเสนอข่าว น.ส.น้ำค้าง พร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์ยกพวกไปทวงรถยนต์เก๋งและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในกลุ่มดังกล่าวด้วยนั้น ขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยวันแรกเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา ได้มีการไปทวงรถยนต์ปรากฏว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ทางฝ่ายผู้เสียหายไม่ได้ให้รถยนต์ไป เมื่อรู้ว่าไม่ได้รถคืนทางฝ่ายคู่กรณีซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิตเขาก็เดินทางกลับ ต่อมาวันที่ 9 ม.ค. 63 ทางฝั่งคู่กรณีก็มาที่บ้านผู้เสียหายอีกครั้ง โดยนำชายฉกรรจ์และตำรวจชุดสืบสวนสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี จำนวน 3 นายไปด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายรู้จักมักคุ้นกับทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี จากนั้นได้มีพูดคุยและทวงจักรยานยนต์ซึ่งทางฝ่ายน้องสาวของผู้เสียชีวิตมีหลักฐานมาแสดงชัดเจน ทางผู้เสียหายจึงคืนรถให้ แต่ในส่วนของรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริสนั้น ทางคู่กรณีไม่มีหลักฐานมาเเสดง และได้พาพวกมาหลายคน จนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย ขณะเดียวกัน ผู้เสียหายได้สังเกตเห็นว่าหนึ่งในกลุ่มคู่กรณีพกพาอาวุธปืนไปด้วยจึงเกิดความหวาดกลัว ในส่วนคนที่มีอาวุธปืนทางพนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน
ในส่วนที่ยกพวกไปในบ้านผู้เสยหายก็มีความผิดฐานบุกรุก ส่วนเรื่องรถยนต์เก๋งที่เป็นประเด็นอยู่นั้น หากทางน้องสาวของผู้เสียชีวิต ยืนยันที่จะนำรถคืนก็ต้องให้นำหลักฐานเอกสารสิทธิในการครอบครองมายืนยันและไปต่อสู้กันในชั้นศาล โดยขณะนี้ผู้ที่มีสิทธิในการครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวยังอยู่ในความดูแลของ น.ส.เกวลิน ภรรยาของผู้เสียชีวิต เรื่องที่ทางร้อยเวรไม่รับแจ้งความนั้น ตนได้เรียกพนักงานสอบสวนมาพบและว่ากล่าวตักเตือนที่สื่อสารให้ข้อมูลกับประชาชนไม่ชัดเจนจนทำให้เกิดการเข้าใจผิด เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกต่อ น.ส.น้ำค้าง และหากพบว่าเข้าข่ายความผิดมาตราใดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ต่อมาทาง พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้เรียก น.ส.น้ำค้าง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ พร้อมด้วยนายประทีป และ น.ส.สมรักษ์ ภิรมย์พร เข้าพูดคุยเจรจากันภายในห้องประชุมโดย น.ส.น้ำค้างได้นำพวงมาลัยมายกมือไหว้ขอโทษทางนายประทีป ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ
