MGR Online - ตำรวจปราบปรามยาเสพติด กวาดล้างยานรก จับกุมได้หลายเครือข่ายพร้อมของกลางทั้งไอซ์ 64 กก. ยาบ้า 128,000 เม็ด กัญชา 1,350 กก. ยาอี 25,000 เม็ด และยาอิริมินไฟว์อีก 98,000 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 118 ล้าน
วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.วัชระ ทิพยมงคล ผบก.ปส.3 และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในสังกัดและหน่วยงานเกี่ยวข้องแถลงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดหลายคดี รวมยึดของกลางไอซ์ 64 กก. ยาบ้า 128,000 เม็ด กัญชา 1,350 กก. ยาอี 25,000 เม็ด และยาอิริมินไฟว์ 98,000 เม็ด รวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สินกว่า 118 ล้านบาท
โดยคดีแรกจับกุมกลุ่มผู้จำหน่ายยาเสพติดทางโซเชียลมีเดีย ฉายา “แม็กไกวเวอร์” รวม 7 คน พร้อมไอซ์ 60 กิโลกรัม รถยนต์เก๋ง 3 คัน ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายสำรวย หรืออ๊อฟ แก้วกระจ่าง อายุ 39 ปี, นายสุทธิพงษ์ หรือหนุ่ม พรหมสุภา อายุ 31 ปี, นายกิตติศักดิ์ หรือจอม ภักดีศรีพันธ์ อายุ 41 ปี, นายอิน ไม่ทราบสกุล ชาวไทยใหญ่ อายุ 30 ปี, นายภชรพล หรือเจี๊ยบ แก้วแกมือง อายุ 32 ปี, นายธนวัฒน์ หรือแม็ก ฉิมพาลี อายุ 26 ปี และนายหลง วงค์แสง อายุ 55 ปี ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย
พล.ต.ท.ชินภัทรกล่าวว่า ชุดจับกุมรับแจ้งว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดของนายสุทธิพงศ์ ลำเลียงยาเสพติดและโดยสารกับรถสาธารณะจากพื้นที่ชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยระหว่างทางผู้ต้องหาได้เช่ารถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กร 4813 เชียงราย พร้อมรถยนต์อีกสองคัน ก่อนจะขับตามกันไปจอดริมถนนบ้านศรีป่าแดง พร้อมแวะซื้อกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมือง จากนั้นจึงขับรถตามกันไปโดยใช้เส้นทางรองเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจค้นกระทั่งถึงบ้านพักไม่มีเลขที่ในหมู่บ้านห้วยไม้เฮี้ยะ ต.บ้านดู่ อ.เมืองฯ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวเขา และเข้าไปจอดในลักษณะที่มีรถใหญ่ปิดทางออก
ต่อมาชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่กลุ่มผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีก่อนถูกจับกุมได้ และพาเข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าว พบไอซ์ 60 กก.บรรจุในกระเป๋าเดินทาง 2 ใบในกระโปรงท้ายรถวีออส จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลจับกุมนายหลง คนกลางระหว่างนายทุนเจ้าของยาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือซึ่งจะทำหน้าที่รับยาเสพติดไปกระจายในกรุงเทพฯ ด้วยการส่งผ่านพัสดุ หรือสั่งซื้อทางออนไลน์
นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้จัดการเล่นพนันออนไลน์ในชื่อ 24 น.ควบคู่กันไปด้วย ทั้งนี้ ไม่พบความเกี่ยวข้องกับแก๊งมันทุกเม็ด ที่เพิ่งกลับมามีกระแสข่าวว่าได้ลอบกลับมาจำหน่ายยาเสพติดทางโซเชียลฯ ซึ่งตำรวจคอยติดตามการข่าวอยู่ตลอด จากนี้จะเชิญผู้ประกอบการด้านการขนส่งพัสดุมาพูดคุยเพื่อหารือการให้ความร่วมมือกับตำรวจในด้านต่างๆ ว่าควรมีมาตรการป้องกันตรวจสอบอย่างไร
คดีที่ 2 จับกุมนายพนม โสภาศรี อายุ 53 ปี และนายสิทธิชัย รบไพรินทร์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางกัญชาจำนวน 300 กก. และรถยนต์กระบะ 1 คัน ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย จับกุมได้ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
สืบเนื่องจากนายพนม ผู้ใหญ่บ้านวังขอนแดง ต.หนองกรุงธนสาร อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น มานานกว่า 8 ปี ได้ลักลอบนำกัญชาภาคอีสาน ฝั่ง จ.หนองคาย มาส่งให้ลูกค้ายังพื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้รถยนต์ขับตามกันมา 2 คัน ตามเส้นทาง อ.โพนพิสัย เรื่อยมาถึง อ.กุมภวาปี กระทั่งเข้าจอดที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจสอบ พบกัญชาอัดแท่งใส่ไว้ในกระสอบ 10 ใบ เรียงอยู่ในห้องผู้โดยสารของรถยนต์ของกลาง จึงจับกุมพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ทั้งนี้ นายพนมเคยมีประวัติเกี่ยวกับการพนัน ตำรวจจึงติดตามข้อมูลเรื่อยมาและตามจับกุมได้ จากนี้จะขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการอื่นๆ
คดีที่ 3 จับกุมนายหมิง แซ่สั่ว (HE MING) ชาวจีน อายุ 41 ปี พร้อมยาอี หรือเอ็กซ์ตาซี 25,000 เม็ด โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร ซ.คู้บอน 27 แขวงท่าแร้ง เขตหลักสี่ กทม. หลังเจ้าหน้าที่พบพัสดุสำแดงเป็นของขวัญส่งจากต่างประเทศมีลักษณะต้องสงสัย มีปลายทางกรุงเทพมหานคร เมื่อตรวจสอบพบเป็นยาอีซุกซ่อนอยู่ในกล่องใส่ของขวัญที่มีตุ๊กตาหิมะ จึงตรวจยึดและขยายผลจับกุมต่อไป
คดีที่ 4 จับกุม นายธีระ หรือนู ศิลาวุธ อายุ 27 ปี นายนเรศ หรือบอส ศุภภัทรานาม อายุ 24 ปี นายจิรายุส หรือม่น สุโพธิ์ อายุ 19 ปี และ น.ส.สุนิศา หรือตุ๊กตา ประพัสรางค์ อายุ 27 ปี พร้อมของกลาง กัญชา 200 กิโลกรัม และรถยนต์ 2 คัน จับกุมได้ที่ถนนสาย 213 บริเวณหน้าตลาดนัดหนองน้ำใส ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ต่อเนื่องริมถนนมิตรภาพ ต.โนนศิลา อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น หลังสืบทราบว่าจะมีผู้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม เข้าสู่พื้นที่ตอนใน จนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบรถยนต์ที่มีนายธีระขับขี่ และรถยนต์ที่มีนายนเรศ เป็นผู้ขับขี่ตามกันมาจนถึง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวตรวจค้น แต่นายธีระได้ขับรถยนต์หลบหนีไปก่อนเสียหลักจอดอยู่ข้างถนน จึงเข้าตรวจค้นและพบกัญชาดังกล่าว กระทั่งตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ทั้งหมด
คดีที่ 5 จับกุม นายวีรวัฒน์ หรือตี๋ ผดาวัลย์ อายุ 27 ปี พร้อมกัญชา 850 กิโลกรัม และรถบรรทุกสิบล้อ 1 คัน จับกุมได้ที่จุดตรวจตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสว่าจะมีรถยนต์บรรทุก ทะเบียน 70-4310 นครศรีธรรมราช เดินทางจากภาคใต้เข้าพื้นที่ภาคอีสาน ผ่าน จ.พัทลุง มีลักษณะต้องสงสัย จึงเข้าแสดงตัวตรวจค้นพบกัญชาดังกล่าว ก่อนแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย
และคดีที่ 6 จับกุมนายมาเกซ มูเนียนดี (MAGESH MUNIANDY) อายุ 45 ปี ชาวมาเลเซีย พร้อมยาอิริมินไฟว์ 98,000 เม็ด และรถยนต์ 1 คัน จับกุมได้ที่ห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งบริเวณถนนประสานมิตร ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากการจับกุมนายนรินทร์ ดวงจันทร์แก้ว และนายชัชวาลย์ กล้าจุ้ย พร้อมไอซ์ 25 กรัม ที่ซุกซ่อนภายในรถยนต์เก๋ง ระหว่างเตรียมลงไปรับยาอิริมินไฟว์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากนายณัฐศักดิ์ หรือเบิร์ด บุญธรรม เจ้าหน้าที่จึงขยายผลจับกุมนายณัฐศักดิ์ได้ที่ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าตัวรับว่ากำลังรอรับยาฯ จากเครือข่ายชาวมาเลเซีย ที่มีนายมาเกซเป็นผู้ร่วมขบวนการ ก่อนตามจับกุมได้ที่สุด พร้อมแจ้งข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม สำหรับยาอิริมินไฟว์นั้นเป็นยานอนหลับชนิดแรง ไม่ค่อยพบในประเทศไทย และมักจะพบว่าถูกนำมาใช้ในสถานบันเทิงต่างๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายหากนำมาใช้มอมเมาได้
