เชียงราย – ตำรวจ ปช.ปส.สนธิกำลังทหารกองกำลังผาเมือง ซ้อนแผนจับตั้งแต่ต้นทางชายแดนแม่สายยันซอยวิภาวดีกรุงเทพฯ รวบแก๊งยานรกวางเกมยอกย้อนเช่ารถขนไอซ์จากป่าช้าเตรียมนั่งรถทัวร์เข้ากรุงแลกค่าจ้างนายทุนใหญ่ท่าขี้เหล็ก
วันนี้ (8 ธ.ค.) พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอิสาณ ผกก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง สนิกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 7 คน ประกอบด้วยนายสุทธิพงษ์ พรหมสุภา อายุ 31 ปี ชาว ต.ทุ่งหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย , นายกิตติศักดิ์ ภักดีศรีพันธ์ อายุ 41 ปี ชาว ต.จุมพล อ.โพนพิสัย , นายอิน สัญชาติไทยใหญ่ อายุประมาณ 30 ปี อาศัยอยู่ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย , นายสำรวย แก้วกระจ่าง อายุ 39 ปี ชาว ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี , นายภชรพล แก้วแกมทอง อายุ 32 ปี ชาว ต.บางครุ อ.พระปะแดง จ.สมุทรปราการ , นายธนวัฒน์ ฉิมพาลี อายุ 26 ปีชาว ต.บางครุ อ.พระปะแดง และนายหลง วงค์แสง อายุ 55 ปี ชาว ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
พร้อมของกลางเป็นยาเสพติดประเภทยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม รถยนต์เก๋งจำนวน 3 คัน ดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต"
การจับกุมพร้อมของกลางมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต ปส.3 ได้สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบขนยาไอซ์จากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ไปส่งเครือข่ายในกรุงเทพฯ จึงได้กระจายกำลังกันออกตรวจสอบตามจุดต่างๆ ต่อมาทราบว่ากลุ่มขบวนการได้เช่ารถยนต์เก๋งและเดินทางออกจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ไปชายแดนด้าน อ.แม่สาย จากนั้นขับไปพักอยู่ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่บ้านห้วยไม้เฮี๊ยะ หมู่ 14 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย
เจ้าหน้าที่เห็นตรงกับที่ได้รับแจ้งจึงเข้าไปตรวจค้นพบนายสุทธิพงษ์ นายกิตติศักดิ์ และนายอิน อยู่ภายในบ้าน ซึ่งเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ออกแรงไล่จับกุมได้ครบทั้งหมด เมื่อตรวจค้นในบ้านพบรถยนต์เก๋งที่เช่ามาพบกระเป๋าเดินทางที่บรรทุกมาด้วย 2 ใบ ภายในมียาไอซ์บรรจุในถุงใบชาจำนวน 60 ห่อๆ ละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมด 60 กิโลกรัม จึงได้จับกุมตัวทั้ง 3 คนเอาไว้ก่อน
และจากขยายผลทราบว่าผู้ที่บงการว่าจ้างคือนายหลง ที่สั่งให้ไปรับยาเสพติดจากปาช้าหมู่บ้านศรีป่าแดง ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย เพื่อให้นำไปส่งเครือข่ายที่กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนจึงได้ไปเช่ารถยนต์เก๋งไปรับของกลางภายในป่าช้าโดยมีชายอีก 4 คนช่วยกันขนใส่รถให้ เมื่อแล้วเสร็จจึงได้ขนของกลางไปพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ก่อนจะเช่ารถยนต์เก๋งเพิ่มเติมเพื่อใช้ขับนำทางจนถึงบ้านพักของนายอินที่ ต.บ้านดู่
จากนั้นได้ซื้อสุราอาหารมาดื่มกินกันแล้ววางแผนจะขนยาไอซ์ทั้งหมดไปส่งที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นได้แยกยาไอซ์ใส่กระเป๋าที่หาซื้อมาเตรียมไว้เป็น 2 ส่วน แล้วจะแยกย้ายกันนำไปขึ้นรถทัวร์โดยสารเพื่อไปส่งที่กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงที่หมายจะได้รับค่าจ้างกิโลกรัมละ 17,000 บาท แล้วจะนำมาแบ่งกัน ซึ่งทั้งหมดเคยทำในลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่ทันลงมือครั้งที่ 2 ก็ถูกบุกเข้าจับกุมเสียก่อน
เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนให้ทั้งหมดทำทีนำของกลางไปส่งที่จุดนัดหมายตามที่นายหลงว่าจ้างคือภายในซอยวิภาวดี 60 แยก 10 แขวง ตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยได้วางกำลังดักซุ่มเอาไว้โดยรอบ กระทั่งพบนายสำรวย นายภชรพล และนายธนวัฒน์ ขับรถยนต์เก๋งมารับจึงจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด
เมื่อสอบถามก็ให้การว่ามารับจ้างขนยาเสพติดทั้งหมดแลกกับเงินครั้งละ 100,000-200,000 บาท เมื่อแล้วเสร็จจะนำเงินมาแบ่งกัน เจ้าหน้าที่จึงขยายผลไปจับกุมตัวนายหลงได้ที่บ้าน ซึ่งเจ้าตัวก็สารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายนนท์ให้จัดหาคนขนยาเสพติดที่ อ.แม่สาย โดยนายนนท์โอนเงินมาให้เป็นค่าจ้างจำนวน 150,000 บาท และโอนเงินให้กับผู้ต้องหาทั้ง 3 แรกเพื่อเป็นค่าเดินทางอีก 40,000 บาทด้วย
กระทั่งเมื่อทราบว่าทั้ง 3 คนแรกได้ของกลางมาเก็บไว้แล้วจึงโอนเงินให้ก่อน 140,000 บาทโดยตนเก็บเอาไว้จำนวน 10,000 บาท นอกจากนี้นายนนท์ยังแจ้งอีกว่าหากการส่งยาเสพติดแล้วเสร็จให้ตนเดินทางไปรับเงินที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย ได้อีก 700,000 บาท แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมได้ที่บ้านดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวคนทั้งหมดพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีและขยายผลไปถึงผู้บงการใหญ่ดังกล่าวต่อไป