กำแพงเพชร/นครสวรรค์ – เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.-ป.ป.ส.-ทหาร ไล่ตามจับแก๊งยานรกบึ่งหนีด่านฯสลกบาตร พบใช้รถ 3 คัน-รถนำทางอีกคัน ขนยาบ้าแบบเย้ยฟ้าท้าดินจากเชียงรายเข้ากรุงเทพฯ ถึง 20 กระสอบปุ๋ย 6 ล้านเม็ด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส. , เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. , ทหาร ศป.บส.ชน. ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ 4 คน คือ นายวิทวัส หรือก้อง รัตนสีหา อายุ 30 ปี ชาวหมู่ 5 ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี , นายกฤติเดช หรืออาท ปุยะพันธ์อายุ 33 ปี ชาวหมู่ที่ 6 ต.ทุ่งบัว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม , นายเอ๋ เงินยอดรัก อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร และ น.ส.มุกดา หรือมุก ลาดกระโทก อายุ 25 ปี ชาวหมู่ที่ 3 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้เมื่อ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา
พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย ยาบ้าชนิดเม็ดกลมแบน สีส้มและสีเขียวปะปน เล็กน้อย ด้านหนึ่งเรียบ ด้านหนึ่งประทับตรา wy บรรจุในซองพลาสติกทึบแสงสีน้ำเงินซองละประมาณ 200 เม็ด มัดรวมกันมัดลๆ 10 ซอง (2 พันเม็ด) 150 มัด ประมาณ 3 แสนเม็ด บรรจุไว้ในกระสอบปุ๋ย 12 ใบ รวมยาบ้าประมาณ 6 ล้านเม็ด
รถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮน-5376 กรุงเทพมหานคร ที่นายวิทวัส รัตนสีหา เป็นคนขับบรรทุกยาเสพติด , รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กอ-126 เชียงราย ที่นายกฤติเดช ปุยะพันธ์ เป็นคนขับ , รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา ทะเบียน ญธ-6832 กรุงเทพมหานคร ที่มีนายเอ๋ เงินยอดรัก เป็นคนขับ เดินทางร่วมกันกับน.ส.มุกดา หรือมุก ลาดกระโทก เพื่อคุ้มกันการลำเลียงและสำรวจเส้นทาง , รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอินโนว่า สีเทา ทะเบียน ฌผ-8470 กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์มือถือที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ติดต่อสื่อสารกันระหว่างขนลำเลียงยาเสพติดอีก 7 เครื่อง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จับกุมนายนายวิทวัส รัตนสีหา ได้บริเวณริมถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 1029 (ดอนแตง – วังชะพู) หมู่ที่ 4 ต.ดอนแตง อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พร้อมของกลางยาเสพติด ก่อนขยายผลไปจับกุมนายกฤติเดช ปุยะพันธ์ ได้บริเวณริมถนนพหลโยธิน หมู่ 5 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษณ์บุรี และจับกุมนายเอ๋ เงินยอดรัก - น.ส.มุกดา ลาดกระโทก ได้ภายในปั้มน้ำมัน ปตท.สลกบาตรบริการ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์
ในชั้นจับกุม นายวิทวัส รัตนสีหา ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายเอ๋ ให้ขับรถยนต์เก๋งโตโยต้ารุ่นอินโนของจากกรุงเทพฯเพื่อไปรับยาเสพติด โดยได้ขับรถยนต์ไปกับนายเอ๋ เข้าไปรับยาเสพติดจากชายไม่ทราบชื่อ ภายในซอยเหมืองแดง 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อรับยาเสพติดแล้ว ก็มีคนนำทางให้ไปที่รีสอร์ตไม่ทราบชื่อ ก่อนช่วยกันขนย้ายยาเสพติดจากรถยนต์เก๋งฯ ไปใส่ในรถยนต์ตู้ของกลาง
จากนั้นตนก็ได้เปลี่ยนไปขับรถยนต์ตู้ของกลางลำเลียงจากเชียงรายไป กทม. โดยมีนายอาท ขับรถยนต์เก๋งสีขาว นำทาง และติดต่อประชุมสายทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อบอกทางตลอด กระทั่งตนและพวกขับรถยนต์เข้าเขตพื้นที่ อ.ขาณุวรลักษณ์ นายอาทแจ้งว่าข้างหน้ามีด่านฯ และแจ้งให้ตนขับรถยนต์ตู้ฯ เข้าไปหลบภายในที่ทำการการไฟฟ้าฯ ก่อนถึงด่านตรวจค้น
เมื่อตนขับรถยนต์ตู้ฯ เข้าไปจอดพบว่ามีรถยนต์ติดตามเข้ามาหลายคันจึงขับรถหนี แต่รถเสียหลักตกข้างทาง จึงตัดสินใจลงจากรถวิ่งหลบหนี แต่ก็ถูกจับกุมได้ในที่สุด
ขณะที่นายกฤติเดช ปุยะพันธ์ ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายโจ้ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ให้ขับรถยนต์จากกทม. ไปร่วมลำเลียงยาเสพติดพร้อมกันกับพวกของนายโจ้ ซึ่งก็คือนายก้อง และนายเอ๋ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยทำหน้าที่ขับรถยนต์นำเพื่อตรวจสอบเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดมาแล้วครั้งหนึ่ง
ซึ่งครั้งนี้ได้ลำเลียงเลียงยาเสพติดดังกล่าวจาก จ.เชียงราย ไป กทม. โดยใช้รถยนต์รวม 3 คัน และทราบว่านายโจ้ได้ติดตามขบวนรถขนยาบ้ามาห่างๆ ด้วยเช่นกัน เพราะใช้การติดต่อผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์นายโจ้ได้สอบถามอยู่โดยตลอด ลักษณะทราบความเคลื่อนไหวของตนและพวกอย่างใกล้ชิด
แต่เมื่อมาถึงบริเวณด่านตรวจค้นขาณุวรลักษณ์ ทราบว่ามีการตั้งด่านตรวจค้น จึงแจ้งให้นายก้องและนายเอ๋ทราบ แต่ทราบว่านายก้อง และนายเอ๋ได้ขับรถยนต์ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด ทำให้ไม่สามารถหาทางหลบออกเส้นทางอื่นได้ทัน จึงถูกเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติ และได้สกัดจับตนกับพวกได้พร้อมยาเสพติดของกลาง
ทั้งนี้หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมของกลางไปยังด่านตรวจค้นยาเสพติดพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เพื่อตรวจนับ-จัดทำบันทึกการจับกุม ทดสอบยาบ้าของกลางก่อนนำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป