xs
xsm
sm
md
lg

ปส.จับเครือข่ายค้ายานรก ทะลักจากเหนือเข้ากทม. รวม 4 คดี มูลค่ากว่า 112 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR online - บช.ปส.แถลงรวบเครือข่ายยานรก 4 คดี ยึดยาบ้าเกือบ 1 ล้านเม็ด ไอซ์ 30 กก.มูลค่ากว่า 112 ล้าน ขณะขนจากภาคเหนือส่งให้กับผู้ว่าจ้างในภาคกลางและภาคใต้ อีกคดีจับสาวเอธิโอเปีย ขนโคเคนก้อนซุกช่องท้อง คาสุวรรณภูมิ

วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผช.ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.และ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 และ พล.ต.ต.บัณฑิต ทิศาภาค ผบก.สกส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในสังกัด แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 5 ราย ของกลางยาบ้า 980,000 เม็ด ไอซ์ 30 กิโลกรัม และโคคาอีนอีก 1 กิโลกรัม รวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 112,500,000 บาท

โดยคดีแรกจับกุมนายณภัทร ภัทรกาญจน์ อายุ 31 ปี พร้อมยาบ้า 3 แสนเม็ด รถกระบะเสริมข้าง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยแจ้งข้อหาว่า “ ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตาเมน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” จับกุมได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์

โดยก่อนเกิดเหตุชุดจับกุมได้รับเบาะแสว่า มีเครือข่ายยาเสพติดลักลอบขนลำเลียงยาจากภาคเหนือตอนบนมาส่งให้กับผู้ว่าจ้างในภาคกลางและภาคใต้ โดยมีเส้นทางเริ่มจาก จ.เชียงราย ลงมาพื้นที่ชั้นใน กระทั่งมาพบรถยนต์กระบะเสริมท้ายลักษณะต้องสงสัยที่ด่านตรวจพยุหะคีรี จึงเข้าตรวจค้น พบยาบ้า 3 แสนเม็ด ซุกซ่อนในล้อยางอะไหล่รถ 2 ล้อ ก่อนขยายผลตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้คุ้มกันนำทางได้ที่ป่าหลังโรงเรียนสามแยกเจ้าพระยา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวนพร้อมของกลาง ก่อนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป

คดีที่ 2 จับกุม นายไพฑูรย์ หรือดุ๊ก เงินเหลือ อายุ 38 ปี และนายนที หรือดุก แสงอ่อน อายุ 38 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 680,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน และรถยนต์เก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง แจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ครอบครองเพื่อจำหน่าย” จับกุมนายไพฑูรย์ ได้ที่ปากซอยทางเข้าวัดดงหนองเป็ด ถ.พหลโยธิน ต.รอบเวียง อ. เมือง จ.เชียงราย และจับกุมนายนที ได้ที่ด่านแม่ต๋ำ ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา

สืบเนื่องจากชุดจับกลุ่มสืบทราบว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด เครือข่ายบ้านจอป่าคา จากประเทศเพื่อนบ้าน นำของกลางมาพักไว้ในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก่อนนำเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศโดยใช้รถตู้ทึบห้องเย็น ซึ่งมีสายลับแจ้งว่าเครือข่ายยาเสพติดจะส่งมอบยา ที่บ่อขยะท้ายหมู่บ้านใน ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย กระทั่งชุดจับกุมพบรถยนต์ต้องสงสัยต้องสงสัย ขับเข้าไปจอดที่บริเวณบ่อทิ้งขยะและไปพบกับชายสองคนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ก่อนจะกลับรถออกมาแล้วขับมุ่งหน้าไปยัง อ.เมือง จ.เชียงราย อย่างรวดเร็ว จึงติดตามรถยนต์คันดังกล่าวจนถึงหน้าห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง จึงหยุดรถและเข้าตรวจค้นพบนายไพฑูรย์ หรือดุ๊ก เป็นผู้ขับขี่ ที่ท้ายรถซึ่งเป็นตู้ทึบห้องเย็นมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระสอบ จำนวน 680,000 เม็ด และขยายผลจับกุมนายนที หรือ ดุก ได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะแม่ต๋ำ จ.พะเยา พร้อมรถยนต์เก๋งที่ใช้เป็นรถนำ ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดี

คดีที่ 3 จับกุมนายวรรณ พรหมปัญญา อายุ 55 ปี พร้อมไอซ์ 30 กิโลกรัม รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” จับกุมได้ในลานจอดรถยนต์ บ่อน้ำพุร้อนแม่กะจาน ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย

โดยชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายนายเล็ก ผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จะนัดส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จึงสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมนายวรรณ ซึ่งเป็นเครือข่ายของนายเล็ก ขณะขับรถยนต์ของกลางไปส่งมอบให้กับลูกค้า เมื่อตรวจค้นภายในรถยนต์พบไอซ์ซุกซ่อนภายในช่องลับพิเศษ ที่เจาะเป็นช่องเปิด-ปิดบนพื้นรถยนต์ใต้เบาะที่นั่งหลังฝั่งขวา ที่เชื่อมเข้าไปภายในถังน้ำมันเพื่อใช้สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดอีกส่วนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงจับกุมนายวรรณ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

และคดีที่ 4 จับกุม น.ส.ชัวมู เอ็นเกเล่ (MS.SUAMU NKELE) อายุ 44 ปี ชาวแองโกลา พร้อมของกลางโคคาอีน 1 กิโลกรัม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า "นำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต"จับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

โดยชุดจับกุมพบผู้โดยสารต้องสงสัยชื่อ น.ส.ชัวมู เอ็นเกเล่ เดินทางมาจากประเทศเอธิโอเปีย เส้นทางลูอันดา-แอดดิสอาบาบา-กรุงเทพ จึงได้ตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นได้เชิญตัวผู้โดยสาร ไปตรวจค้นร่างกายโดยละเอียด พบโคคาอีนซุกซ่อนอยู่ในถุงเท้า และซุกซ่อนไว้ภายในกางเกงชั้นใน 42 ก้อน และอยู่ภายในช่องท้อง 38 ก้อน รวมทั้งสิ้น 80 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัม จึงจับกุม น.ส.ชัวมู ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น