กลุ่มโจ๋จอด จยย. ขวางทางเข้าบ้าน หนุ่มขับกระบะฉุน เกิดทะเลาะวิวาทก่อนชักปืนยิงขา 1 นัด ล็อกคอจ่อยิงระยะเผาขนที่หัวอีก 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเพื่อนเข้ามาช่วย ถูกลูกหลงกระสุนเข้าท้อง 1 ราย
วันที่ 10 ธ.ค. 62 เมื่อเวลา 21.30 น. พ.ต.ต.อาสา จันทรมณี สารวัตร (สอบสวน) ตำรวจนครบาลท่าเรือ รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณทางเดินชุมชนโรงหมู แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมบัติ แก่นวิจิตร ผู้กำกับการตำรวจนครบาลท่าเรือ พ.ต.ท.ยรรยง สุวรรณสอาด รองผู้กำกับการตำรวจนครบาลท่าเรือ กำลังตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยจุดเกิดเหตุเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ พบกองเลือดขนาดใหญ่ และมีทางกู้ชีพนำผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย ส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อภายหลัง นายสมชาย ยอดเพ็ชร อายุ 21 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด.38 จำนวน 2 นัด เข้าที่ขาและศีรษะ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอีกรายนายพิทักษ์ หอมจิตร อายุ 23 ปี ถูกลูกหลงกระสุนปืนเข้าที่ท้อง อยู่ระหว่างรักษาตัว จึงรวบรวมไวัเป็นหลักฐาน
สอบสวนนายขวัญ ยอดเพชร อายุ 32 ปี พี่ชายของผู้ตายให้การว่า ผู้ก่อเหตุมีฐานะดี ครอบครัวทำธุรกิจค้าขายเนื้อวัวอยู่ตลาดคลองเตย ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องทะเลาะกับบ้านตนหลายครั้ง จนมีการแจ้งความดำเนินคดีกรณียิงใส่บ้านจนทำให้ตนบาดเจ็บ และอีกครั้งปล่อยสุนัขพันธุ์พิตบูลมากัด กระทั่งช่วงค่ำที่ผ่านมาน้องชายตนกำลังจับกลุ่มกับเพื่อนอยู่บริเวณลานจอดรถดังกล่าว โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา เข้ามาก่อนจะตะโกนใส่น้องตนว่า “ยืนทำไร ทำไมไม่ขยับรถ” เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นลานจอดรถ มีจักรยานยนต์จอดเรียงกันอยู่ไปขวางทางเข้าบ้านผู้ก่อเหตุ แต่ด้วยรถที่ขวางไม่ใช่รถผู้ตายจึงยืนนิ่ง จนมีปากเสียงและมีการลงไม้ลงมือขึ้น กระทั่งฝ่ายผู้ก่อเหตุชักอาวุธปืนออกมายิงเข้าที่ขาผู้ตาย 1 นัด พร้อมกอดคอผู้ตาย และจ่อยิงระยะเผาขนที่หัว 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นทางกลุ่มเพื่อนน้องชายพยายามจะเข้ามาช่วย แต่โดนลูกหลงไปด้วย และผู้ก่อเหตุจึงรีบหนีไป
ต่อเวลา 00.15 น. ทางตำรวจสามารถจับกุมตัวนายคณภร เมืองเอี่ยม หรือนุ อายุ 32 ปี ผู้ที่ลงมือก่อเหตุไว้ได้ พร้อมของกลางปืนลูกโม่ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระปืน .38 จำนวน 2 นัด โดยระหว่างคุมตัวเพื่อไปสถานีตำรวจ มีบรรดาญาติและกลุ่มเพื่อนของผู้ตายกว่า 50 คน ต่างกรูที่จะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ แต่ทางตำรวจรีบนำตัวมายังสถานีก่อนนำตัวเข้าห้องขังทันที เบื้องต้นจากการสอบสวนเจ้าตัวให้การอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป