ชัยนาท - ตำรวจนำตัว 2 ผู้ต้องหายิงพ่อ ส.ท.เมืองชัยนาท ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยิงผิดตัว ด้านลูกชายผู้เสียชีวิตเผยทั้งน้ำตา แค้นใจ แต่ไม่ขอแก้แค้น
จากเหตุการณ์ที่ นายอดิศักดิ์ ภู่เปี่ยม อายุ 78 ปี ข้าราชการบำนาญชลประทาน และเป็นบิดาของ นายเอกชัย ภู่เปี่ยม สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชัยนาท ถูกคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. จ่อยิงเข้าที่ท้อง 2 นัด ขณะเดินออกกำลังกายริมถนนเลียบคลองโพธิ์ ภายในซอยไชยภรณ์ อ.เมือง จ.ชัยนาท ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 พ.ย.62 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เย็นวันนี้ (9 ธ.ค.) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบภ.ภ.จว.ชัยนาท ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายเสนอ หรือดิน มีเอี่ยม อายุ 56 ปี ชาวอำเภอสรรคบุรี จ.ชัยนาท และนายนพดล หรือตูมตาม คล้ายขำ อายุ 28 ปี ชาวอำเภอเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
โดยทั้ง 2 คนเป็นบุคคลในภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามผู้เสียชีวิต ขณะเดินออกกำลังกาย โดยตำรวจได้ตามไปจับกุมตัว นายเสนอ หรือดิน ได้ที่บริเวณริมถนนอู่ทอง-บ้านกระจัน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งนายดิน เป็นผู้ที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ แล้วใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงผู้ตาย ส่วนนายนพดล หรือตูมตาม ผู้ทำหน้าที่ขับรถ พานายเสนอ ไปก่อเหตุ ตำรวจตามจับตัวได้ที่บริเวณสี่แยกถนนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง แต่เกิดการยิงผิดตัว เนื่องจากไม่เคยเห็นรูปถ่ายใบหน้าของเหยื่อตัวจริงมาก่อน และยิงตามที่คนชี้เป้าบอก อีกทั้งผู้เสียชีวิตใส่ชุดออกกำลังกายคล้ายกับเป้าหมาย จึงทำให้ยิงผิดตัว โดยได้รับการว่าจ้างในราคาคนละ 100,000 บาท แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง และจากการตรวจสอบประวัติ นายดิน พบเคยติดคุกคดีปล้นทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนนายตูมตาม ก็เคยติดคุกมาแล้ว 5 ครั้ง
ทั้งนี้ ตำรวจยังคงเร่งติดตามคนชี้เป้าอีก 1 คน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ คาดว่ามีอีก 4-5 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผล และอยู่ในสำนวนคดี ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่ายิงผิดตัว แล้วบุคคลใด คือเหยื่อตัวจริงที่ต้องการสังหาร ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเช่นกัน
จากนั้นตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีตำรวจควบคุมฝูงชน และตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จำนวน 120 นาย คอยดูแลความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาในบริเวณจุดทำแผน โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 30 นาที จากนั้นพาผู้ต้องหากลับไปคุมขังไว้ที่ สภ.เมืองชัยนาท ซึ่งในการทำแผน คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเห็นผู้เสียชีวิตเดินออกกำลังกายก็หยุดรถ แล้วตะโกนเรียก เฮีย จากนั้นก็ยิงปืนใส่ร่างผู้เสียชีวิต 2 นัด แล้วขี่รถจักรยานยนต์หนีไป ก่อนจะมีคนขับรถกระบะมารับหนีไปอีกต่อหนึ่ง
ด้านลูกสาว และลูกชายคนเล็ก ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางนำกระเช้าไปมอบให้แก่ตำรวจ เพื่อขอบคุณที่จับคนร้ายได้โดยเร็ว โดยนายสิรโชค ภู่เปี่ยม ลูกชายคนเล็กของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตา ยอมรับว่า รู้สึกเจ็บแค้นใจมากที่บิดาถูกยิงเสียชีวิต แต่จะไม่ขอแก้แค้น เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์ หากไปแก้แค้นเอาคืน บิดาก็ไม่ฟื้นคืนชีวิตกลับมา จึงอยากให้เรื่องจบเพียงแค่นี้ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่จะจับตัวคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนี้ไปจะขอดูแลแม่และครอบครัวแทนพ่อให้ดีที่สุด
นายสริโชค ยังบอกว่า รู้สึกดีใจที่จับคนร้ายได้ ทำให้สังคมได้รับรู้ว่า เป็นการยิงผิดตัว บิดาของตนและตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ไม่ใช่การยิงพ่อเพื่อเอาคืนลูก ตามที่กระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันก่อนหน้านี้ “ถ้าเป็นบุญใหญ่ ถือว่าพ่อได้ต่อชีวิตคนหนึ่งคน ด้วยการเสียสละชีวิตตัวเอง ผมถือว่าพ่อได้บุญครั้งนี้แล้วกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นบุญที่ทุกคนไม่อยากได้รับ แต่ในเมื่อมันเกิดมาแล้ว ก็ทำไงได้ ขอให้พ่อรับรู้ ขอให้พ่อไปสู่สุคติ”