- "สงกานต์"พาลุงวัย 52 ร้องยธ.หลังถูกแก๊งโจ๋ ลากลงจากรถเก๋งมารุมทำร้ายจนดั้งหัก แจ้งข้อหาเพิ่มแต่ตร.สวนพริกไทยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ผู้กระทำผิด ด้านกรมคุ้มครองสิทธิฯ ยื่นมือเยียวยาแล้ว
วันนี้ (26 พ.ย.) ณ ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม พา นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี เข้าขอความเป็นธรรมต่อ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีถูกกลุ่มคนร้ายลากลงจากรถเก๋งมารุมทำร้ายจนดั้งหัก เพื่อขอใช้สิทธิ์ตามกฏหมาย
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฎคลิปภาพกลุ่มวัยรุ่นเข้ารุมทำร้าย นายสมบัติ จนดั้งจมูกหัก และเข้าแจ้งความ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหากับพวก ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.295 ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายฯปกติ โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับเพียงข้อหาเดียวเท่านั้น ทั้งๆที่นายสมบัติได้รับบาดเจ็บสาหัสจนดั้งจมูกหักและมีการใช้กุญแจรถยนต์เป็นอาวุธต่อยที่ใบหน้าจนกุญแจงอ ซึ่งอาจเข้าข่ายตาม ม.297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวอีกว่า ส่วนการกระชากกุญแจรถยนต์ของผู้เสียหายออกมาและล็อคคอเพื่อรุมทำร้ายถือเป็นการทำให้เสียทรัพย์และกักขัง หน่วงเหนี่ยว แต่ตำรวจในพื้นที่กลับไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา จึงอยากให้ผู้บังคับการจังหวัดปทุมธานีช่วยดูรายละเอียดข้อกล่าวหาด้วย รวมทั้ง ยังต้องรอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลเพื่อนำมาพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายเพิ่มเติม นอกจากนี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม มีเงินช่วยเหลือผู้เสียหายในค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจไม่เกิน 20,000 บาท ค่าสูญเสียรายได้จากการทำกินตามอัตราค่าแรงงานขั้นต่ำต่อวันแต่ไม่เกิน 1 ปี และค่าเสียหายอื่นๆไม่เกิน 5 หมื่นบาท
ด้าน นายสงกานต์ เผยว่า ทางผู้เสียหายนับเป็นประชาชนคนธรรมดา ที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิทางกฎหมายได้ จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ช่วยเร่งรัดการทำสำนวนให้ครอบคลุม เนื่องจากกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากหลังเกิดเหตุการณ์ตำรวจ ไม่ได้มีการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ แม้กระทั่งภรรยาของผู้บาดเจ็บที่นั่งอยู่ในรถยนต์ด้วย
ขณะที่ นายสมบัติ กล่าวสั้นๆ ว่า ขอบคุณกระทรวงยุติธรรมที่ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย เพราะตนเป็นแค่ชาวบ้านไม่รู้เรื่องข้อกฎหมายที่สามารถช่วยเหลือเยียวยา
