- "เขมจิรา" อดีตภรรยา พล.ต.ต.มือยิงโจทก์พร้อมทนายดับกลางศาลจันทบุรี ก่อนถูกเสมียนศาลยิง ยังข้องใจอดีตสามีถูกยิงขณะทถูกจับสวมกุญแจมือหรือไม่ เผย"บัญชา"ทนายความน้องชาย"กิตติวุฒโฑ"เคยร้องเรียนถอดยศ
วันนี้ ( 17 พ.ย.) น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ อายุ 61 ปี ทนายความชื่อดัง นางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยา นายวิชัย อุดมธนภัทร และนายวิจัย สุขรมย์ ทีมทนายฝ่ายโจทก์เสียชีวิตกลางห้องพิจารณาคดีศาลจังหวัดจันทบุรี ก่อนที่นายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย จะคว้าปืนจาก ร.ต.อ.ขจร บรรจง รอง สวป.สภ.เมืองจันทบุรี ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจศาล ยิงใส่ พล.ต.ต.ธารินทร์ จนเสียชีวิตอีกราย โดยเรื่องราวดังกล่าวเกิดจากชนวนเหตุข้อพิพาทที่ดินกว่า 3,800 ไร่ ที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ว่า สำหรับเรื่องราวข้อพิพาทที่ดินผืนดังกล่าวที่เกิดขึ้นมานั้น ตนเชื่อว่านายบัญชา คือบุคคลสำคัญที่คอยดำเนินการช่วยให้ นายบุญช่วย เจริญสถาพร อายุ 78 ปี น้องชายพระกิตติวุฒโฑ พระชื่อดังในอดีต ยักยอกที่ดินของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ไปเป็นของส่วนตัว อีกทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอให้พิจารณาถอดยศ พล.ต.ต.ธารินทร์ เนื่องจากฝั่งนายบุญช่วยและนายบัญชา มองว่าหากยังปล่อยให้ พล.ต.ต.ธารินทร์ ขุดคุ้ยพยานหลักฐานเอกสารทางราชการขึ้นมาจะทำให้ความจริงปรากฎขึ้นว่าตนเองแอบยักยอกไป
น.ส.เขมจิรา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่สังคมสงสัยว่าถ้าตนมีพยานหลักฐานจริง เหตุใดถึงแพ้คดีครอบครองที่ดิน ตนอยากชี้แจงในส่วนนี้ว่าหลักฐานเอกสารราชการต่างๆ ที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ สืบหามาได้นั้นก็เพิ่งได้มาหลังจากที่มีการตัดสินคดีไปแล้ว ถ้าหากตอนนั้นตนมีหลักฐานเหล่านี้นายบุญช่วยก็คงไม่ได้ที่ดินผืนดังกล่าว เพราะหลักฐานที่ตนนำไปสู้ตอนนั้นมีเพียงแค่หลักฐานการแสดงจำนวนบุตรเท็จเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามภายหลังจากนายบุญช่วยและนายบัญชา รู้ว่าทางฝ่ายเรามีหลักฐานเหล่านี้ และได้มีการนำหลักฐานไปยื่นร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองที่ดินผืนนี้ขึ้นอีกครั้งนั้น นายบุญช่วยและนายบัญชา ก็ได้มีการพยายามไกล่เกลี่ยในชั้นศาล โดยบอกว่าหากตนยุติเรื่องและเรียกคืนหลักฐานเหล่านี้กลับมาทางฝ่ายของเขาจะยอมถอนฟ้องคดีต่างๆให้ แต่ทางพล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ยอมเพราะด้วยความที่ตัวเขาเป็นตำรวจรักความยุติธรรม เขาจะไม่ยอมให้นายบุญช่วยได้ที่ดินผืนดังกล่าวไปแน่นอน และจะต้องทวงคืนที่ดินผืนนี้คืนกลับมาให้กับมูลนิธิ เขาเคยบอกตนว่าเขาทำมาขนาดนี้จะยอมหยุดไม่ได้ และความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าอาจจะต้องเป็นผู้พ่ายแพ้ก็ตาม
น.ส.เขมจิรา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พล.ต.ต.ธารินทร์ ถูกยิงเสียชีวิตนั้น ตนเองและครอบครัวก็ยังคงคาใจ เพราะเชื่อว่าข้อมูลที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่านายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย ใช้อาวุธปืนยิงอดีตสามีตนเสียชีวิต ว่าทำไปเพราะต้องการระงับเหตุและเป็นการยิงก่อนที่จะมีการจับ พล.ต.ต.ธารินทร์ ใส่กุญแจมือนั้น เป็นข้อมูลที่บิดเบือน ถ้าหากต้องการให้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้กระจ่างอยากให้นำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องพิจารณาคดีออกมาเปิดเผยเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย นอกจากนี้ตนยังทราบอีกว่าภายหลังจากที่นายธนากร ก่อเหตุเสร็จนั้นยังมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยให้การช่วยเหลือโดยการขับรถพาหลบหนี แต่จนถึงวันนี้ผู้หญิงคนดังกล่าวกลับยังไม่ถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆ เลย ส่วนกรณีที่ทางกองปราบรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินผืนดังกล่าวนั้น ขณะนี้ตนทราบว่ามีความคืบหน้าไปมาก และค่อนข้างเป็นที่พอใจเกี่ยวกับการทำงานของตำรวจกองปราบเป็นอย่างมาก ซึ่งตนเชื่อว่ากองปราบจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่มีลำเอียงและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม