xs
xsm
sm
md
lg

“วงศ์สกุล” เผย ปปง.พร้อมให้ใช้ที่ดินย่านสะพานควาย 21 ไร่ หลังยึดคืนเพื่อสร้าง อสส.แห่งใหม่แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - อัยการสูงสุดแถลงนโยบาย 4 ข้อ หนุนพัฒนาองค์กรยั่งยืน ระบุ ปปง.พร้อมให้ใช้พื้นที่ย่านสะพานควาย 21 ไร่ หลังได้ยื่นฟ้องให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินสร้าง เพื่อสร้างสำนักงาน อสส.แห่งใหม่แล้ว

วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ห้องประชุม 120 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด คนที่ 15 กล่าวแถลงนโยบายการบริหารงานของอัยการสูงสุด พ.ศ. 2562-2564 หลังเข้าดำรงตำแหน่งในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคณะผู้บริหารและข้าราชการสำนักงานอัยการสูงสุดเข้ารับฟัง ซึ่งมีนโยบายทั้งหมด 4 ข้อ ประกอบด้วย 1. การอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ต้องรวดเร็ว เป็นธรรม เสมอภาค โปร่งใส ตรวจสอบได้ และปราศจากการเลือกปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่น และศรัทธา

2. บูรณาการกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อค้นหาความจริงเชิงรุกให้สามารถขจัดข้อขัดแย้งและกรณีพิพาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล และประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ 3. นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ลดค่าใช้จ่ายทั้งของภาครัฐและประชาชน ให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างทั่วถึง สะดวก และรวดเร็ว 4. สนับสนุน ส่งเสริมให้บุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด ยึดมั่นในหลักคุณธรรมจริยธรรม มีจิตอาสา พัฒนาความรู้ ความสามารถอย่างต่อเนื่อง และมีความมั่นคง มีการพัฒนาตามเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงจัดให้มีความพร้อมด้านอัตรากำลัง อาคารสถานที่ปฏิบัติงาน อาคารสถานที่ที่พักอาศัย และวัสดุอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน

นายวงศ์สกุลกล่าวอธิบายถึงนโยบาย เช่น การบูรณาการกับทุกหน่วยงาน ที่มีสำนักงานอัยการสูงสุดมีพันธกรณีในรูปแบบกับศาล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมบังคับคดี ขณะที่นอกรูปแบบมีการแข่งขันกีฬา การทำบุญร่วมกัน เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับหน่วยงานภายนอก, การปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรมต้องรวดเร็วและประหยัด ซึ่งจากการศึกษาดูงานต่างประเทศเห็นว่า มีการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้มากขึ้น เช่น ธนาคารโลกใช้ AI, การพัฒนาบุคลากร ผ่านโครงการจิตอาสา การพัฒนาความรู้ความสามารถด้วยการอบรมสัมมนา พร้อมประสานงานในการไปอบรมกับหน่วยงานอื่นและต่างประเทศ และการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบที่เป็นอุปสรรค เป็นต้น

ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น มีข่าวดีที่เราได้งบสูงกว่าปีก่อน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรหลายท่าน ทั้งนี้ การพัฒนาองค์กรเป็นเรื่องสำคัญ อัยการสูงสุดวาระ 2-3 ปี อาจไม่ต่อเนื่อง ต่อไปนี้เครือข่ายผู้บริหารที่จะขึ้นรุ่นต่อไป ต้องเชิญมาร่วมกันสร้างแนวคิด พัฒนาให้องค์กรยั่งยืน สร้างความสุขให้บุคลากรในองค์กร หากมีปัญหา ข้อเสนอแนะ ให้สะท้อนมา ตนและผู้บริหารพร้อมรับฟัง

นายวงศ์สกุลยังกล่าวถึงการประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอใช้พื้นที่ดินย่านสะพานควาย ที่อัยการยื่นฟ้องให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน ล่าสุด ปปง.ยินยอมให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวจำนวน 21 ไร่เศษ โดยมีแนวคิดที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการสูงสุดที่เป็นของหน่วยงานเราเองจริงๆ การใช้ที่ดินดังกล่าวก็อาจมีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม แต่ก็ถือว่าเราได้เริ่มทำแล้ว

นอกจากนี้ กรณีที่นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา มีนโยบายให้ตั้งศาลแขวงสีคิ้ว พร้อมสถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการ เพื่อใช้ฝึกอบรมอีกแห่งหนึ่งนั้น จากการพูดคุย ทางสำนักงานอัยการฯ มีโอกาสที่จะได้รับที่ดินใช้ประโยชน์ในพื้นที่ใกล้เคียงเช่นกัน โดยใช้นโยบายลักษณะเดียวกับทางศาล ในการสร้างสถาบันอบรมและเป็นพื้นที่สีเขียว อยู่กับธรรมชาติ ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม

ภายหลังการแถลงนโยบายเสร็จ คณะผู้บริหารสำนักงานอัยการสูงสุดได้ร่วมกันถ่ายภาพ ชูมือและกล่าวสโลแกนว่า “ด้วยใจภักดี ตระหนักในหน้าที่ พลังสามัคคี มีนิติธรรม” ยืนยันจะขับเคลื่อนองค์กรอัยการให้เป็นไปตามแผนนโยบาย


กำลังโหลดความคิดเห็น