อดีต รมว.พลังงาน “พิชัย” ส่งทนายขอเลื่อนเข้าพบ พนักงานสอบสวน ปอท.ตามหมายเรียกครั้งที่ 1 เป็นวันที่ 16 ส.ค.นี้ ในความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคง
สืบเนื่องจาก พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เอาผิดต่อนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (2 ส.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ บก.ปอท. นายยอดชาย ศีลนำสุข ทีมงานทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.หญิง ปัณณพร ยิ่งเรงเริง รอง สว.(สอบสวน) ช่วยราชการ กก.3 บก.ปอท. เพื่อขอเลื่อนเข้าพบตามหมายเรียกครั้งที่ 1 หลังจากตัวแทน คสช.แจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที
นายยอดชายกล่าวหลังพบเจ้าหน้าที่ว่า พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้ออกหมายเรียกนายพิชัยตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. จากนั้นส่งหมายเรียกไปที่บ้านของนายพิชัยเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ให้มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ในวันที่ 2 ส.ค. เวลา 10.00 น. ซึ่งช่วงระยะเวลาค่อนข้างกระชั้นชิดเกินไปทำให้นายพิชัยเตรียมตัวไม่ทัน พร้อมติดธุระเร่งด่วนจึงขอเลื่อนกำหนดนัดหมายเป็นวันที่ 16 ส.ค. 61 เวลา 13.00 น.แทน โดยยืนยันว่านายพิชัยจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท.อย่างแน่นอน ส่วนรายละเอียดในการโพสต์วิจารณ์ที่ถูกดำเนินคดีนั้นยังไม่ขอเปิดเผย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 61 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุข้อความว่า “วันนี้ได้รับหมายเรียกจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ให้ไปรายงานตัวที่ กก.3 บก.ปอท. ในวันที่ 2 สิงหาคม เวลา 10.00 น. โดยผู้กล่าวหาคือ คสช. โดย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้รับมอบอำนาจ ซึ่งกล่าวหาว่านำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน”
ทั้งนี้ นายพิชัยได้ถูกเรียกตัวเป็นครั้งที่ 11 แล้ว โดยเป็นการเรียกปรับทัศนคติ 8 ครั้ง และหมายเรียกตำรวจอีก 3 ครั้ง นับเป็นผู้ที่ถูกเรียกตัวมากที่สุด โดยครั้งที่ 7 ถูกเรียกไปคุมตัว 7 วัน และโดนคลุมหัวปิดตาทั้งไปและกลับ ทั้งนี้ นายพิชัยกล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าโดนกล่าวหาในเรื่องใด เพราะทุกเรื่องที่ได้เสนอต่อสาธารณะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้มาโดยตลอด เชื่อว่าประชาชนสามารถใช้วิจารณญาณตรวจสอบได้ว่าข้อมูลที่นำเสนอนั้นถูกต้องหรือไม่ และไม่เข้าใจว่าขณะนี้กำลังจะมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว เหตุใดจึงยังใช้วิธีการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยอาศัย พ.ร.บ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลจะมีนโยบายที่จะต้องแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นี้เพื่อไม่ให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตของประชาชน อีกทั้งปรับปรุงแก้ไขให้เป็นสากลในทุกด้านซึ่งน่าจะช่วยแก้ปัญหาการลงทุนภาคเอกชนที่หายไปด้วย ทั้งนี้ ได้มอบให้ทนายความ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ประสานงานกับ บก.ปอท.ในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสังเกตว่านายพิชัยมีชื่อและปรากฏภาพไปร่วมงานฉลองวันเกิดกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่กรุงลอนดอน จึงเป็นสาเหตุให้ถูกหมายเรียกในคราวนี้ใช่หรือไม่ หลังจากกลับมาจากรุงลอนดอน นายพิชัยได้นำเสนอแนวคิดของนโยบายเศรษฐกิจแบบใหม่ที่หวังว่าจะโดนใจประชาชนและจะสร้างความนิยมให้กับพรรคเพื่อไทยได้อย่างมาก จนมาถูกหมายเรียกนี้