MGR Online - ปธ.มูลนิธิปวีณาฯ พาแม่น้องเมย์เหยื่อแฟนเก่าเพื่อนราดน้ำไฟจุดเผา และน้องเนยกลุ่มเพื่อนน้องเมย์ หลังถูกผู้ต้องหาที่ได้ประกันตัวออกมาข่มขู่คุกคาม ตร.เตรียมตั้งข้อหาเพิ่มและถอนประกัน ส่วนน้องเมย์อาการยังสาหัส
จากกรณี นางมล (นามสมมติ) อายุ 44 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ว่า น.ส.เมย์ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ลูกสาว ถูกนายเก่ง (นามสมมติ) อายุ 23 ปี แฟนเก่าเพื่อน ราดน้ำมันจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ส่วนนายเก่ง ถูกจับกุมในที่เกิดเหตุก่อนศาลจะให้ประกันตัวออกมา เหตุเกิดเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 8 ก.ค.61 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผกก.สน.วัดพระยาไกร ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการของ น.ส.เมย์ โดย นพ.สุกิจ ศรีทิพยวรรณ ผอ.รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกายเบื้องต้น พบว่า ผิวหนังถูกเผาไหม้ไป 18-20% ของร่างกาย ส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นหลัง รองลงมาคือ คอ หน้าอก และแขนเป็นบางส่วน แต่ไม่โดนใบหน้า ยังโชคดีที่ไม่โดนจุดอันตราย และเป็นแผลไฟไหม้ระดับ 2 เราจะให้เซลล์ฟื้นฟูซ่อมแซมขึ้นมาเอง แต่ว่าเราจะประเมินอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ว่า มีจุดไหนที่เสียหายลึกกว่าจุดอื่นๆหรือไม่ แต่ก็จัดได้ว่าอยู่ในระดับได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนเรื่องต้องทำศัยกรรมหรือไม่นั้น ยังเร็วเกินไปที่จะตอบคำถามตอนนี้ ขณะนี้อาการของคนไข้ดีขึ้นตามลำดับ คาดว่า จะต้องนอนรักษาตัวอยู่ รพ. อีก 2-3 สัปดาห์ เพื่อรักษาแผลให้หายดีก่อน ทั้งนี้ ผู้ป่วยพูดจาโต้ตอบได้ดี ทานอาหารได้ อาจมีความกังวนอยู่บ้าง เพราะไม่เคยเหตุการณ์ดังกล่าวมาก่อน
นางปวีณา กล่าวว่า วันนี้ได้ประสาน พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผกก.สน.วัดพระยาไกร เพื่อจะพาน้องเนย ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ไปแจ้งเรื่องผู้ต้องหาที่ก่อเหตุหลังศาลให้ประกันตัวกลับมาข่มขู่ จนทำให้เกิดความเครียดจัดเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย และประสงค์จะแจ้งความขอให้ตำรวจทำเรื่องถอนประกันและช่วยคุ้มครองความปลอดภัย ทั้งนี้ น้องๆ เป็นเพื่อนกันพึ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สาขาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ก่อนจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับออกแบบเสื้อผ้า ย่านถนนเจริญกรุง
ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ สน.วัดพระยาไกร นางปวีณา พร้อมด้วย นางมล และ น.ส.เนย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผกก.สน.วัดพระยาไกร และ พ.ต.ท.กฤษณะ ศรีประเสริฐ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายเก่ง พร้อมทั้งร้องขอให้ตำรวจดำเนินการถอนประกันและให้ความคุ้มครองปลอดภัย
นางมล เปิดเผยว่า ลูกสาวตนพึ่งจะเดินทางเข้ามาได้ 1 เดือน หลังเรียนจบระหว่างรอสอบบรรจุครูผู้ช่วย ไม่คาดคิดว่าจะเกิดกับครอบครัวตน ตอนนี้ตนสภาพจิตใจย่ำแย่ ถึงแผลร่างกายจะหาย แต่แผลจิตใจรักษายังไงก็ไม่หาย เป็นห่วงลูกมากๆ
น.ส.เนย กล่าวว่า หลังผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว ได้ข่มขู่ตนโดยระบุว่า ตนอาจจะเป็นรายต่อไป ทำให้หวาดกลัว เครียด จึงมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับนายเก่งมาก่อน แต่พอจะทราบลักษณะนิสัยเป็นคนไม่ค่อยพูด เงียบ ชอบดื่มสุราทุกวัน ไม่มีงานทำ
พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผกก.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความดำเนินคดี และจะทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายเก่ง จากเดิมในข้อหาทำร้ายร่างกาย เป็น ข้อหาทำร้ายร่างกายทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังเพิ่มข้อหาข่มขู่คุกคามทำให้เกิดความกลัวอีกด้วย ส่วนเรื่องการถอนประกันนั้น เดิมทีข้อหาที่แจ้งเป็นเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่เมื่อข้อหาเพิ่มขึ้น อัตราโทษร้ายแรงขึ้น จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนการพิจารณาอยู่แล้ว จากเดิมศาลแขวงพระนครใต้ เป็นศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนเรื่องการคุ้มครองความปลอดภัยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งสายตรวจไปตรวจตราที่พักเป็นระยะเพื่อความปลอดภัย จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาคือ นายอธิวัตร คำภู อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 107 ต.เป้า อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี