MGR Online - ทีมโฆษกดีเอสไอ แจงยึดทรัพย์แผนฟื้นฟู สหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น ดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน “ศุภชัย” กับพวก รวม 18 คนไว้แล้ว ส่วนคดีแพ่ง ที่ศาลได้มีคำพิพากษาให้สหกรณ์ฯชนะคดี จึงเป็นเรื่องการทับซ้อนของกฎหมายต่อทรัพย์สินเดียวกัน
วันนี้ (10 ก.ค.) คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารแถลงการณ์ ระบุว่า “ปรากฏข่าวประเด็นจะมีการประชุมคณะกรรมการดำเนินการผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และที่ประชุมอาจมีการหารือและขอมติเพื่อยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีที่ไม่ปลดการยึดอายัดทรัพย์สินของอดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ทำผิดและกำลังได้รับโทษตามกฎหมาย หลังจากส่งหนังสือขอให้พิจารณามาตลอด แต่ไม่มีผลการดำเนินการ ทำให้ สหกรณ์ยูเนี่ยน ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน โดยหากคณะกรรมการดำเนินการมีมติเห็นชอบ ประธานคณะกรรมการดำเนินการก็จะมีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งจะเข้าหารือกับ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วย นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอชี้แจงว่า กรณีตามข่าวสืบเนื่องจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ได้ทุจริตนำเงินออกจากสหกรณ์ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเงินส่วนหนึ่งจำนวน 3,800 ล้านบาทเศษ ได้นำไปซื้อทรัพย์สิน จำนวน 299 รายการ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน และมีการอายัดทรัพย์ดังกล่าวไว้ เนื่องจากเป็น “ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด” ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 5(1) และเป็นของกลางในคดีพิเศษที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่ ซึ่งโดยปกติจะต้องยึดไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทรัพย์สินเดียวกันนี้ สหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ได้ยื่นฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก รวม 18 คน เป็นคดีแพ่งและศาลได้มีคำพิพากษาให้สหกรณ์ฯชนะคดี และออกหมายบังคับคดีแล้ว จึงเป็นเรื่องการทับซ้อนของกฎหมายต่อทรัพย์สินเดียวกันทั้งทางแพ่งและอาญาที่มีผู้ต้องหาหรือผู้ถูกฟ้องกลุ่มเดียวกันจากมูลแห่งเรื่องเดียวกัน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”