MGR Online - ปธ.ที่ปรึกษาแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น พร้อมตัวแทนสหกรณ์ทวงถามดีเอสไอ หลังถูกอายัดเงิน 3,800 ล้านบาท อาจเข้าข่ายฟอกเงิน หลัง ปปง.แจงไม่ต้องรอใช้กฎหมายฟอกเงิน ด้านรองโฆษกดีเอสไอรอสรุปมติวันที่ 13 ธ.ค.นี้
วันนี้ (29 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานที่ปรึกษาแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด พร้อมด้วย ตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯ ร่วม 20 คน เดินทางยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ เพื่อทวงถามความคืบหน้ากรณีดีเอสไออายัดทรัพย์สินสหกรณ์ฯกว่า 3,800 ล้านบาท โดยอ้างว่าอาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หลังล่าสุดสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีหนังสือแจ้งว่าสหกรณ์ฯ สามารถดำเนินการตามสิทธิกฎหมายอื่นได้ ไม่ต้องรอใช้กฎหมายฟอกเงิน แต่ดีเอสไอยังคงอายัดไว้
นายเผด็จกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 60 ปปง.จัดการประชุมครั้งที่ 20/2560 ได้มีมติคณะกรรมการธุรกรรมไม่ดำเนินการกับทรัพย์สิน จำนวน 299 รายการ เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่าสหกรณ์ฯ ยื่นฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์กับพวก รวม 18 คน ซึ่งศาลมีคำพิพากษาและออกหมายบังคับคดีแล้ว สามารถดำเนินการกับทรัพย์สินดังกล่าวตามกฎหมายอื่นได้ โดยทาง ปปง.ส่งหนังสือแจ้งมายัง ดีเอสไอ กรมบังคับคดี และสหกรณ์ฯ เพื่อรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ทำให้ตัวแทนสหกรณ์ฯ เดินทางมาเพื่อขอทราบความคิดเห็น และการดำเนินการปล่อยทรัพย์ให้เร็วที่สุด
ด้าน พ.ต.ต.วรณันเปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวจะนำเข้าในที่ประชุมร่วม 4 ฝ่าย ทั้งดีเอสไอ ปปง. กรมบังคับคดี และอัยการ เพื่อตรวจสอบพิจารณาสรุปในวันที่ 13 ธ.ค. 60 ว่าเรื่องที่ ปปง.ส่งกลับมานั้นมีเหตุผลสามารถคืนเงินให้สมาชิกผู้เสียหายได้อย่างไรบ้าง
ส่วนทางนางกนกลดา เจริญศิริ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ ระบุว่า กรณีดังกล่าวจะต้องตรวจสอบว่าทรัพย์สินทั้งหมดนั้นแบ่งเป็นทรัพย์สินในคดีอาญาและคดีแพ่งจำนวนเท่าไหร่ เพราะคดีอาญาต้องให้คดีความถึงที่สิ้นสุดก่อนจากนั้นศาลจะมีคำสั่งขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาคืนให้สมาชิก แต่หากเป็นคดีความทางแพ่งก็จะต้องประชุมว่าจะสามารถคืนให้สมาชิกทางใดบ้าง โดยจะต้องรอผลการประชุม 4 ฝ่ายในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ว่าผลการประชุมจะเป็นอย่างไร