xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” แจงคดีแบงก์กรุงไทยปล่อยกู้กลุ่มกฤษดามหานคร ทำตามกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “ดีเอสไอ” แจงข่าวประเด็นทนายความอิสระ ยื่นหนังสือถึง อธ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีอดีตบิ๊กกรุงไทย ปล่อยธนาคารให้เครือกฤษดามหานคร ที่อัยการสูงสุดแจ้งว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจดำเนินคดีฐานฟอกเงิน และส่งเรื่อง ป.ป.ช.พิจารณาต่อไปแล้ว

วันนี้ (10 ก.ค.) คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารโดยระบุว่า “ด้วยวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ปรากฏข่าวประเด็น นายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระ ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินคดีกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายวิโรจน์ นวลแข, ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ, นายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา, นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ และนายอุตตม สาวนายน ในความผิดฐานฟอกเงิน โดยระบุว่าจากคำวินิจฉัยของศาลฎีกาที่ได้พิพากษาลงวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ว่าคดีการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้เครือกฤษดามหานคร เพื่อนำไปชำระคืนเจ้าหนี้เดิม คือ ธนาคารกรุงเทพ เป็นการกระทำความผิดและคดีถึงที่สุดแล้ว และได้พิพากษาแล้วว่าการนำเงินกู้ที่ได้ไปใช้ผิดประเภท

ในคดีดังกล่าวเป็นคดีมูลฐาน เข้าข่ายการกระทำความผิดทางอาญาฐานฟอกเงิน และไม่มีกฎหมายใดยกเว้นไว้ว่า บุคคลใดที่เข้าข่ายการกระทำความผิดฐานฟอกเงินนั้น หากถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว จะได้รับการยกเว้นโทษในคดีความผิดฐานฟอกเงินด้วย อีกทั้งธนาคารกรุงเทพได้ออกหนังสือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นที่มาของการลดหนี้ และนำเงินไปใช้ผิดประเภท เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินกว่า 3,300 ล้านบาท กระจายไปยังบุคคลต่างๆ มากกว่า 100 ราย แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าคณะกรรมการ ปปง.เลือกดำเนินคดีร้องทุกข์ต่อบุคคลที่เข้าข่ายกระทำความผิดเพียงบางรายเท่านั้น โดยไม่ดำเนินคดีต่อธนาคารกรุงเทพ และอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นต้นเหตุของการฟอกเงิน”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้เดินทางมายื่นหนังสือพร้อมพยานหลักฐานให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้วกว่า 10 ครั้ง แต่ยังไม่พบว่าดีเอสไอจะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตรวจสอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งในประเด็นดังกล่าวอาจทำให้สังคมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ดำเนินคดีกับบุคคลบางกลุ่มเท่านั้น

กรณีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบแล้วพบว่า นายวันชัยได้ยื่นเรื่องมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษตั้งแต่ปลายปี 2558 และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ รวมทั้งได้หารือไปยังอัยการสูงสุดว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีอำนาจดำเนินคดีอาญากับกรรมการธนาคารกรุงไทยฯ อีก 2 คน ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีโดย ป.ป.ช. คือ 1. นายชัยณรงค์ และ 2. นายอุตตม ได้หรือไม่ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดมีหนังสือตอบข้อหารือ เลขที่ อส.0010.4/6358 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2559 แจ้งว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่มีอำนาจดำเนินคดี ส่วนคดีฐานฟอกเงินนั้น บุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้องในชั้นการพิจารณาอนุมัติเงิน อันเป็นคนละขั้นตอนกับการโอน รับโอน หรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดอันจะเป็นความผิด จึงไม่มีการดำเนินคดีฐานฟอกเงิน

อย่างไรก็ตาม กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือส่งคำกล่าวโทษของนายวันชัย เรื่องกรรมการทั้งสองคน ไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาแล้ว ส่วนเรื่องของธนาคารกรุงเทพ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย ได้ตรวจสอบไม่พบความผิดปกติในการดำเนินการของธนาคารกรุงเทพ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงมิได้ดำเนินคดี ซึ่งประเด็นของนายวันชัยทั้งหมด กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือแจ้งผลการดำเนินการให้นายวันชัยทราบแล้ว ตามหนังสือเลขที่ ยธ 0812/1368 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2559 คำร้องที่ยื่นมานี้เป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น