MGR Online - ศาลพิพากษาจำคุก “ทนายประเวศ” รวม 16 เดือน ฐานโพสต์ปลุกระดมปกครองแบบสหพันธรัฐผิด ม.116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ยกฟ้องข้อหาหมิ่นเบื้องสูง เจ้าตัวไม่ยื่นอุทธรณ์ ย้ำไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ชั้นสอบสวน ขอติดคุกต่ออีก 2 เดือนก็ครบ
ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (27 มิ.ย.) ศาลนัดพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.2368/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประเวศ ประภานุกุล อายุ 58 ปี ประกอบวิชาชีพทนายความ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฐานกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดตามรัฐธรรมนูญหรือมิใช่แสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, และผู้ใดทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามหน้าที่มีกฎหมายกำหนดไว้แล้ว ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุฯ มาตรา 368 และฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ตามมาตรา 3, 14 (3)
รวมทั้งขัดคำสั่งเจ้าพนักงานไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค. 59 กับคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 25 ลงวันที่ 29 ก.ย. 49 เรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับการยุติธรรมทางอาญาว่า ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา มีหน้าที่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ ลายมือหรือลายเท้า ตามคำสั่งของพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยอัยการยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 25 ม.ค. - 23 เม.ย. 60 จำเลยซึ่งเป็นผู้ใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “ประเวศ ประภานุกูล” ที่เป็นบัญชีส่วนตัว มีผู้ติดตามจำนวน 2,574 คน และมีเพื่อน 4,769 คน โดยจำเลยนำข้อมูลที่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยการโพสต์ข้อความที่มีลักษณะละเมิดกฎหมาย ซึ่งมิใช่แสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน หรือเป็นการดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.
โดยในการพิจารณาของศาลชั้นสอบคำให้การจำเลย นายประเวศ จำเลยได้แถลงปฏิเสธไม่ขอยอมรับกระบวนการยุติธรรมและไม่ขอตรวจพยานหลักฐานในคดี โดยคดีเริ่มสืบพยานอัยการโจทก์ เมื่อเดือน พ.ค. 61 ที่ผ่านมา ขณะที่นายประเวศนั้นไม่ได้ประกันตัวนับตั้งแต่ฝากขังครั้งแรกวันที่ 3 พ.ค. 60 ตลอดจนชั้นพิจารณาคดีในศาล ซึ่งวันนี้ศาลเบิกตัวนายประเวศมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำพิพากษา โดยมีญาติและกลุ่มคนใกล้ชิดนำดอกกุหลาบแดงมาร่วมให้กำลังใจด้วยกว่า 10 คน และมีกลุ่มสื่อเพื่อสังคมมาสังเกตการณ์ด้วย
กระทั่งเวลา 09.30 น. ศาลได้อ่านคำพิพากษา ซึ่งชั้นพิจารณาจำเลยแถลงปฏิเสธไม่ขอยอมรับกระบวนการยุติธรรม และไม่ได้สืบพยาน ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานอื่นฝ่ายโจทก์ตามทางนำสืบแล้วเห็นว่า จำเลยได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กทำนองว่าสนับสนุนทั้งคนเสื้อเหลือง-เสื้อแดง โค่นล้มอำนาจเผด็จการ พร้อมเรียกร้องระบบสาธารณรัฐ หรือสหพันธรัฐ ซึ่งพูดได้เต็มที่ เชื่อผม ผมเป็นทนาย ฯลฯ อันเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116(3), 368, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ม.14(3), ประกาศ คปค.ฉบับที่ 25
จึงพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษ ซึ่งความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (3) ที่เป็นบทหนักสุด จำคุกรวม 3 กระทงๆ ละ 5 เดือน รวม 15 เดือน และฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานฝ่าฝืน ประกาศ คปค.ฉบับที่ 25 ที่เป็นบทหนักสุด ให้จำคุก 1 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้นเป็นเวลา 16 เดือน ส่วนข้อหาตาม ม.112 และข้อหาอื่นให้ยก
ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว นายประเวศและญาติต่างแสดงความยินดีต่อกัน ขณะที่นายประเวศยืนยันว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดี โดยระบุว่าที่ผ่านมาตนก็แสดงออกว่าไม่ยอมรับกระบวนยุติธรรมทั้งหมดตั้งแต่ชั้นจับกุม สอบสวน
ด้าน น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เปิดเผยว่า คดีนี้อัยการยื่นฟ้องข้อกล่าวหา ม.112 ประมาณ 10 กรรม และความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ม.116 รวม 3 กรรม ซึ่งศาลก็ได้พิพากษายกฟ้องใน ม.112 คงลงโทษเฉพาะ ม.116, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ และการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. โดยนายประเวศ ระบุจะไม่อุทธรณ์คดี แต่ทั้งนี้ตามกระบวนการอัยการโจทก์ ยังใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คดีได้อีกภายใน 1 เดือนหรือขอขยายเวลาหากยื่นไม่ทัน ขณะที่ส่วนของ นายประเวศ นั้น คุมขังอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ชั้นฝากขังมาแล้วประมาณ 13-14 เดือน ดังนั้นเหลือเวลาจะถูกคุมขังอีกประมาณ 2 เดือนก็จะได้รับการปล่อยตัว