ตำรวจดอนเมืองหิ้วผู้ต้องหาแก๊งโคลอมเบีย ลักทรัพย์บ้านผู้พิพากษา กวาดทรัพย์สิน 3 รายการ มูลค่า 63,000 บาท ฝากขัง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.อ.นที จันทรา พนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ได้ควบคุมตัวนายโจเซ อเล็กซานเดอร์ โรดริเกซ เวลานเดีย (Jose Alexander Velandia) อายุ 47 ปี สัญชาติโคลัมเบีย ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเคหสถานฯ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อระหว่าง เวลา 09.00-22.00 น. วันที่ 13 เม.ย. 2559 นายโจเซ ผู้ต้องหา ได้ก่อเหตุลักทรัพย์รวม 3 รายการ ได้แก่ พระเครื่อง, แหวนทองคำ และนาฬิกาข้อมือรวมทั้งสิ้น 63,500 บาท ของนายสถาพร ดาโรจน์ อดีตรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ปัจจุบันเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุธรณ์ ภาค 1 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บช.น.ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวชาวต่างชาติ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 840/2559 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2559 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เวลา 20.30 น. ตำรวจได้สืบสวนทราบว่าชายต้องสงสัยดังกล่าวกำลังเดินทางจากกรุงเทพฯ ไป จ.อุดรธานี โดยรถประจำทางสายกรุงเทพฯ-อุดรธานี ของบริษัท ชาญชัยทัวร์ จำกัด จึงประสานกับตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจท่องเที่ยวให้ตรวจสอบรถโดยสารประจำทางคันดังกล่าว ขณะกำลังขับอยู่บนถนนมิตรภาพ ช่วงระหว่าง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมตรวจสอบผู้โดยสารบนรถประจำทางคันดังกล่าว ปรากฏพบบุคคลเป็นชายชาวต่างชาติตรงตามหมายจับ โดยชายต่างชาติดังกล่าวไม่มีเอกสารประจำตัวให้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวไปซักถามที่ สภ.บ้านไผ่ ซึ่งชาวต่างชาติได้แจ้งว่าชื่อโจเซ สัญชาติโคลอมเบีย และยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับ ดังนั้น พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุมครองบุคคลหรือทรัพย์โดยผ่านเข้าไปด้วยประการใดๆ ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนี ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.83, 334, 335 (1) (3) (7) (8), 336 ทวิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เนื่องจากการสอบสวนไม่เสร็จสิ้นและจะครบกำหนดควบคุมผู้ต้องหา 48 ชั่วโมง ในวันที่ 18 มิ.ย. 2561 แต่จำเป็นจะต้อองสอบปากคำพยานอีก 6 ปาก, รอผลตรวจสอบของกลาง และผลตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจึงขออำนาจศาลฝากขังมีกำหนด 12 วัน ตังแต่วันที่ 18-29 มิ.ย. 2561
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันเนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือยุ่งเหยิงพยานหลักฐานอื่น นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังได้กระทำความผิดในพื้นที่ สน.มีนบุรี ซึ่งทาง สน.มีนบุรีได้ขออายัดตัวผู้ต้องหาไว้เพื่อจะนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีด้วย
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป
