MGR Online - รองโฆษก ตร. แจงกรณีจับหนุ่มโคลอมเบีย ลักทรัพย์บ้าน ปชช. ย่านมีนบุรี แต่ไม่ใช่บ้าน “บิ๊กป้อม” ขยายผลหาแก๊งตีนแมวเพิ่มอีก 3
วันนี้ (17 มิ.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวการจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติ สัญชาติโคลอมเบีย ก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตพื้นที่มีนบุรี รวมทั้งบ้านพัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.ขอนแก่น ว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวชายชาวต่างชาติ ไม่ทราบสัญชาติและชื่อนามสกุล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามี่ 840/2559 ลงวันที่ 26 เม.ย. 59 ซึ่งต้องหาว่ากระทำฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ”
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการสืบสวนทราบว่า ชายต้องสงสัยเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น กำลังเดินทางจาก กทม. ไป จ.อุดรธานี ด้วยรถยนต์โดยสารประจำทางสาย กทม.- อุดรธานี ซึ่งออกเดินทางจาก กทม. ในวันที่ 15 มิ.ย. 61 เวลา 16.30 น. จึงได้ประสานงานกับ กองบัญชาการตำรวจ ภาค 4 และ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวระหว่างเส้นทางสาย กรุงเทพฯ-อุดรธานี จนสามารถร่วมกันสกัดและทำการจับกุมตัว MR. JOSE ALEXANDER RODRIGUEZ VELANDIA อายุ 46 ปี สัญชาติโคลอมเบีย ได้ที่ สี่แยกมิตรภาพ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 61 เวลา 01.30 น.
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า จากการขยายผลผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี อีก 3 คน ทำการลักทรัพย์ในเขตมีนบุรี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมาจริง ส่วนประเด็นที่ว่าผู้ต้องหากับพวกได้ก่อเหตุลักทรัพย์บ้าน พล.อ.ประวิตร นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลและติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำและกำชับกองบัญชาการทุกภาคส่วนมาโดยตลอด ให้เน้นหนักในด้านการป้องกันเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการออกตรวจตรา ที่ต้องเพิ่มความถี่ การตั้งจุดตรวจ - จุดสกัด รวมไปถึงการร่วมมือกับการประชาชนในการให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ ในการป้องกันตนเอง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้าย ไม่ว่าจะเป็นความผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์หรือความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย และหากเกิดเหตุขึ้นต้องรีบติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว รวมไปถึงการจับกุมผู้ที่มีหมายจับข้างเก่า เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามไม่ให้คนร้ายไปคนเหตุที่ไหนกับผู้ใดได้อีก ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุนในพื้นที่