MGR Online - ดีเอสไอแจงมีอำนาจหน้าที่ในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเรื่องจับแก้วน้ำปลอม ถือเป็นเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนคดีอื่นมีการขับเคลื่อนเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 2,500 คดี
วันนี้ (18 มิ.ย.) คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารโดยระบุว่า “ตามที่ปรากฏข่าวคอลัมน์ “คัดข่าวกรอง” ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน 2561 ได้นำเสนอเกี่ยวกับข่าวการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรณีแก้วน้ำปลอมเครื่องหมายการค้าและละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อสุดสัปดาห์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมแสดงความเห็นว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ และเสนอแนะว่ากรมควรไปทำการสอบสวนคดีพิเศษอื่นๆ นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงต่อสาธารณชนว่า การกระทำความผิดอาญาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา อันประกอบด้วย ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้า เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยที่มีความรุนแรงต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้ประเทศไทยตกเป็นประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ของสหรัฐอเมริกา และมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ทางการค้าของประเทศในด้านต่างๆ ต่อมา เมื่อมีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ได้กำหนดให้ความผิดในเรื่องดังกล่าวที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ หรือที่กระทำเป็นลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ องค์กรอาชญากรรม รวมถึงที่มีผู้มีอิทธิพลที่สำคัญอยู่เบื้องหลังการกระทำผิดเป็นคดีพิเศษ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการปราบปรามจับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นคดีพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับองค์กรเอกชนหลายองค์กร รวมถึงผู้แทนผู้เสียหายทั้งในและต่างประเทศ จนเมื่อ พ.ศ. 2560 สหรัฐอเมริกาได้ปลดประเทศไทยพ้นจากประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามความผิดประเภทนี้อย่างต่อเนื่องของทุกฝ่าย และกรมสอบสวนคดีพิเศษยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่องในการปราบปรามจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตามที่เป็นข่าว มีมูลค่าความเสียหาย หากคำนวณตามมูลค่าสินค้าแท้เป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท จึงอยู่ในข่ายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษและตั้งข้อสังเกต ทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีโอกาสชี้แจงอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงาน อันจะทำให้สาธารณชนที่ติดตามข่าวสารได้ทราบและเข้าใจบทบาทและภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวกับงานละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาดียิ่งขึ้น
อนึ่ง สำหรับประเด็นข้อเสนอแนะที่ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งทำคดีพิเศษอื่นๆ นั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงว่า กรมมีการเร่งรัดดำเนินการในทุกคดี โดยมีคณะกรรมการระดับกรมกำกับติดตาม และต้องรายงานข้อมูลด้านคดีต่อคณะกรรมการคดีพิเศษด้วย เพียงแต่ที่ผ่านมากรมไม่ได้มีการเสนอข่าวต่อสาธารณชน ซึ่งนับจนถึงปัจจุบัน กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการสืบสวนคดีพิเศษเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 2,500 คดี