MGR Online - เด้งแล้ว “พิสิฐชัย สว่างวัฒนากร” มือโพสต์ข่าวปลอมเตรียมจับเจ้าอาวาส 4 วัดดัง คดีเงินทอนฉาว พ้นหน้าที่ เปิดทางกองคดีภาษีอากรที่เจ้าตัวสังกัดสอบผิดวินัยและคดีอาญาหรือไม่
วันนี้ (11 มิ.ย.) คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารโดยระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อต่างๆ กรณีนายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะมีการจับกุมดำเนินคดีต่อเจ้าอาวาสวัดต่างๆ เกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด ซึ่งการดำเนินคดีอาญาในเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้กองคดีภาษีอากรรายงานข้อเท็จจริงมาเพื่อดำเนินการนั้น
ในวันนี้ (11 มิ.ย.) กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีคำสั่งให้นายพิสิฐชัยพ้นหน้าที่จากกองคดีภาษีอากร ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ โดยมีผลทันที และให้กองภาษีอากรเชิญผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาให้ข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาว่าเป็นความผิดทางวินัยหรือทางอาญาหรือไม่ แล้วรายงานให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษทราบโดยเร็ว”
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมการพิจารณามีมติให้นายพิสิฐชัยพ้นหน้าที่จากกองคดีภาษีอากร เพื่อการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นด้วยความโปร่งใส ถึงแม้นายพิสิฐชัยจะโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แต่เป็นข้าราชการระดับสูงอาจทำให้เกิดความสับสน จึงต้องสอบสวนข้อเท็จจริงซึ่งรอผลสอบจากกองคดีภาษี รายงานข้อเท็จจริงว่าเข้าข่ายผิดวินัยหรืออาญาหรือไม่ รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย
ส่วนการสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) ยังไม่ได้รับรายงานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คดีเงินทอนวัดนั้นดีเอสไอไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ แต่การโพสต์ข้อความดังกล่าวมีผลกระทบต่อหน่วยงาน ต้องดูความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือเจตนาว่าทำไปเพื่อต้องการอะไร
ส่วนทาง พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ได้มาจากสำนวนคดีของ ปปป. และไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนดังกล่าวนำข้อมูลมาจากที่ใด แต่ในเบื้องต้น ปปป.ไม่จำเป็นต้องเรียกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาสอบสวนเพราะไม่มีบุคคลใดร้องทุกข์หรือแจ้งความเอาผิดต่อกรณีที่มีการโพสต์ในลักษณะนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า วันพรุ่งนี้ ( 12 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะมีการจับกุมเจ้าอาวาสวัดต่างๆในคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตเงินทอนวัดเอง เนื่องจากเป็นการตรวจพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของตนเอง โดยในวันดังกล่าวทางดีเอสไอจะนำตัว นายพิสิฐชัย มารับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบปราม ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วย