แม่ “น้องอุ้ม” รับศพทั้งน้ำตา อโหสิกรรมมือฆ่าหลังตายตาม เปิดเฟซบุ๊กพบชนวนเหตุง้อโหด-ลั่นไกยิง

MGR Online - แม่ “น้องอุ้ม” เหยื่อกระสุนอดีตแฟนหนุ่ม รับศพทั้งน้ำตา อโหสิกรรมมือฆ่าหลังเสียชีวิตตามลูกสาว ด้านแม่มือยิงช็อกคาดไม่ถึงลูกชายจะมาก่อเหตุร้าย เปิดเฟซบุ๊กพบทั้งคู่เป็นแฟนกันตั้งแต่อยู่ ม.5 ก่อนเลิกราเพราะฝ่ายชายนอกใจแล้วตามง้อโหด จนเกิดเหตุสลด

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อ น.ส.ณัจฉรียา ทาประจิตร หรือน้องอุ้ม อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะลอจิสติกส์และซัปพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม ถูกนายภัคพงษ์ จิตตารมย์ อายุ 28 ปี อดีตแฟนหนุ่ม ชักปืนขนาด .38 ยิงใส่จนน้องอุ้มเสียชีวิตปากทางเข้าหมู่บ้านริมถนนศาลายา-นครชัยศรี หมู่ 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม จากนั้นนายภัคพงษ์ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงเสยใต้คางหวังจบชีวิตตามจนอาการสาหัสขั้นโคม่า ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นพ.วีรศักดิ์ ครองลาภเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เปิดเผยว่า นายภัคพงษ์ จิตตารมย์ ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงน้องอุ้ม ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลา 21.42 น.คืนวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่นางจิรภิญญา ทาประจิตร แม่น้องอุ้ม เดินทางมารับศพลูกสาวที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช โดยยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ เนื่องจากทำใจไม่ได้ต่อความสูญเสีย โดยนางจิรภิญญาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้น้องอุ้มคุยกับแม่ว่าเดือนสิงหาคมนี้จะเรียบจบแล้ว และจะรับปริญญาช่วงกลางปีหน้า

“น้องอุ้มเป็นความหวังทุกอย่างของครอบครัว เพราะครอบครัวช่วยกันส่งเสียหวังให้เรียนจนจบปริญญาตรี อยากให้มีการมีงานทำดีๆ เพราะครอบครัวค่อนข้างยากจน ก่อนหน้านี้ก็รู้จักกับครอบครัวของฝ่ายชายผู้ก่อเหตุ มีอาชีพกรีดยางเหมือนกัน รู้เพียงว่าน้องอุ้มคบกับฝ่ายชายมานาน เป็นคนขยัน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าทำแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาลูกไม่เคยพูดว่ามีปัญหาแฟนแต่อย่างใด” นางจิรภิญญากล่าว และว่าหลังจากนี้จะนำศพน้องอุ้มไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.สุรินทร์ ทั้งนี้ตนไม่มีอะไรจะพูดถึงฝ่ายชาย เพราะเขาก็เสียชีวิตเช่นกัน ไม่อยากจองเวรจองกรรม ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

ด้านแม่และตาของนายภัคคพงษ์เดินทางมาที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพื่อดำเนินการเรื่องศพของนายภัคคพงษ์ โดยยืนยันว่าลูกชายเป็นคนอารมณ์ดี ร่าเริง ทุกวันก็จะคุยกันทางโทรศัพท์ทุกวัน แต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 มิ.ย.โทรศัพท์หาลูกชายแต่ติดต่อไม่ได้ กระทั่งวันที่ 4 มิ.ย.ทางตำรวจโทรศัพท์แจ้งว่าลูกชายไปก่อเหตุฆ่าคนตาย ตนเองถึงกับอึ้ง เนื่องจากคาดไม่ถึงว่าลูกชายจะไปก่อเหตุ เพราะเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน สำหรับน้องอุ้มเคยเจอกันบ้างแต่ไม่บ่อยนัก

ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของน้องอุ้มเปิดเผยว่า น้องอุ้มเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียนหนังสือ ส่งผลให้การเรียนที่ผ่านมาได้เกรดเฉลี่ย 3.5 นอกจากนี้ยังเป็นนักกีฬาแบดมินตันของมหาวิทยาลัย ระหว่างเรียนทำงานหารายได้พิเศษด้วยการขายเครื่องสำอาง หวังแบ่งเบาภาระทางบ้าน

ด้านความสัมพันธ์ระหว่างน้องอุ้มและนายภัคพงษ์ เนื่องจากพ่อแม่ของน้องอุ้มแยกทางกัน น้องอุ้มจึงย้ายมาอยู่ที่ จ.ระยอง และได้คบหากับนายภัคพงษ์ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง โดยนายภัคพงษ์ทำงานด้านคอมพิวเตอร์ในโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ส่วนน้องอุ้มเมื่อเรียนจบชั้นมัธยม มาสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยใน จ.นครปฐม โดยนายภัคพงษ์ขับรถมาหาน้องอุ้มอยู่บ่อยครั้ง

กระทั่งเดือน ม.ค. 2561 น้องอุ้มจับได้ว่านายภัคพงษ์แอบมีความสัมพันธ์กับสาวอื่นทำให้น้องอุ้มไม่พอใจพร้อมบอกเลิก แต่นายภัคพงษ์ไม่ยอม โดยขับรถมาหาและมีปากเสียงกัน จากนั้นในช่วงเดือน มี.ค. นายภัคพงษ์ได้ตามมาง้อน้องอุ้มอีกครั้ง แต่ตกลงกันไม่ได้และนายภัคพงษ์ยังทำร้ายน้องอุ้มทั้งซ้อมทุบตีจนหน้าตาบวมปูด จนล่าสุดฝ่ายชายมาก่อเหตุสลดดังกล่าว

หากย้อนไปดูไทม์ไลน์ในเฟซบุ๊กของน้องอุ้มจะพบว่าน้องอุ้มได้โพสต์ถึงเรื่องราวชีวิตตั้งแต่อยู่ จ.ระยอง แล้วพบรักกับนายภัคพงษ์ ก่อนเรียนจบมัธยมแล้วมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม มีผลการเรียนดี ล่าสุดได้เกรดเฉลี่ย 3.5 และอีกไม่กี่เดือนจะจบการศึกษา แต่สุดท้ายต้องมาพบกับอดีตแฟนหนุ่มที่ตามง้อโหดก่อนลั่นไกสังหารจบชีวิตลงอย่างไม่คาดคิด