xs
xsm
sm
md
lg

กรรมการสิทธิฯ ชง ครม.รื้อแผนคุ้มครองสทธิฯ เผย 16 ปี รัฐ-นายทุน ถูกร้องเรียน 2 พันกว่าเรื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ภาพจากแฟ้ม)
MGR Online - กรรมการสิทธิฯ ยื่น 12 ข้อเสนอให้ ครม. สังคายนาแผนคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เผย 16 ปี ชาวบ้านร้องถูก รัฐ - นายทุน คุกคามชุมชนและสิ่งแวดล้อม 2,199 เรื่อง

วันนี้ (29 เม.ย.) นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ส่งข้อเสนอแนะมาตรการ หรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan on Business and Human Rights - NAP) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมาเพื่อให้เป็นไปตามข้อเสนอของ กสม. และให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 247 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 (3) และมาตรา 42 ให้มีผลในทางปฏิบัติโดยเร่งด่วน อีกทั้งเพื่อให้เป็นไปตามปฏิญญาความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในประเทศไทย (UN Guiding Principles on Business and Human Rights : UNGPs) ที่หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคธุรกิจ และ กสม. ได้ร่วมลงนามในงานสัมมนาวิชาการเรื่อง “การเผยแพร่และขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในประเทศไทย” ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560

นายวัส กล่าวต่อว่า ข้อเสนอแนะของ กสม. ต่อการจัดทำแผนฯ ดังกล่าวครอบคลุมหลักการเคารพ ปกป้อง และเยียวยา อันเป็น 3 เสาหลักพื้นฐานของ UNGPs ที่ประเทศไทยให้การรับรอง ตลอดจนข้อเสนอในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย รวมทั้งสิ้น 12 ข้อ จำนวน 49 หน้า ได้แก่ การจัดลำดับความสำคัญของปัญหาและมาตรการการแก้ไขปัญหาด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน มาตรการป้องกันและเยียวยาที่มีประสิทธิภาพ การนำนโยบายของรัฐบาลในเรื่องนี้ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม การให้รัฐวิสาหกิจเป็นผู้นำในการเคารพและส่งเสริมการทำธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรภาคเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการทางกายภาพ การขนส่ง สารสนเทศการสื่อสาร และบริการอื่นๆ

นายวัส กล่าวต่อว่า กสม. ยังได้เสนอแนะเรื่องการสร้างหลักประกันการเคารพสิทธิมนุษยชนในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยให้หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจศึกษาแนวทางในการเสริมสร้างมาตรการที่มีประสิทธิภาพในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ รวมถึงการนำหลักการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐอย่างยั่งยืน (Sustainable Public Procurement) มาใช้ในทางปฏิบัติ การสร้างหลักการสำคัญที่จะประกันว่าการลงนามในสนธิสัญญาทางการค้าระหว่างประเทศของไทยจะไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อสิทธิมนุษยชนการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคธุรกิจจัดทำรายงานการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence) และเปิดเผยต่อสาธารณะ

นายวัส กล่าวว่า แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนยังควรระบุถึงแนวทางและวิธีการแก้ไขปัญหาช่องว่างทางกฎหมายและกระบวนการทางปกครองที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ รวมถึงการเร่งรัดการแก้ไขกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้สิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีโดยไม่สุจริต หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อกลั่นแกล้งหรือเอาเปรียบหรือฟ้องคดีเพื่อสกัดกั้นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (Anti-SLAPP Law) นอกจากนี้ ควรระบุถึงกลไกการเยียวยานอกกระบวนการยุติธรรมของรัฐ และการออกกฎหมายว่าด้วยการเยียวยานอกกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้หน่วยงานสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกลไกการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ

นายวัส กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2544 - 2560 กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนจำนวน 2,199 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมทั้งที่เกิดในประเทศไทยและจากโครงการลงทุนหรือพัฒนาทั้งของรัฐและเอกชนสัญชาติไทยในประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหาสิทธิแรงงาน แรงงานข้ามชาติ กลุ่มเปราะบาง ซึ่งคำร้องเรียนส่วนใหญ่มีลักษณะที่ไม่อาจดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นได้เฉพาะตัวเป็นรายกรณี

นายวัส กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ประเทศไทยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ นโยบาย แนวปฏิบัติ และสภาพแวดล้อมให้ตอบสนองต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น ดังนั้น กสม. จึงได้จัดทำข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan on Business and Human Rights – NAP) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้รับผิดชอบ นำข้อเสนอของ กสม. ไปพิจารณาประกอบการจัดทำแผนฯ ซึ่งรัฐบาลมุ่งหวังจะให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 เพื่อให้การขับเคลื่อนหลักการชี้แนะฯ บังเกิดผล และเกิดการสร้างวัฒนธรรมการเคารพสิทธิมนุษยชนในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น