MGR Online - ปปง.มีมติอายัดทรัพย์สินคดีเลี่ยงภาษี-ยาเสพติด-ค้ามนุษย์ ร้านนวด “นาตารี” รวมมูลค่ากว่า 213 ล้านบาท พร้อมชงเรื่องอัยการยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินอีก 6 คดี มูลค่า 31 ล้านบาท
วันนี้ (25 เม.ย.) พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 8/2561 เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน โดยคดีที่สำคัญ ดังนี้ การยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 3 คดี รวมทรัพย์สินที่ยึดอายัด จำนวน 97 รายการ มูลค่ากว่า 213,081,000 บาท ได้แก่ (1) คดีเกี่ยวกับภาษีอากร ทรัพย์สินที่อายัดไว้ชั่วคราว จำนวน 46 รายการ มูลค่ากว่า 213,000,000 บาท คือ นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี กับพวก ทำความผิดตาม ม.37 แห่งประมวลรัษฎากร โดยหลีกเลี่ยงหรือฉ้อโกงตั้งแต่ 10 ล้านบาทต่อปีภาษีขึ้นไป และได้กระทำในลักษณะที่เป็นขบวนการหรือเป็นเครือข่าย มีการสร้างธุรกรรมอันเป็นเท็จหรือปกปิดเงินได้พึงประเมิน หรือรายได้เพื่อหลีกเลี่ยง หรือฉ้อโกงภาษีอากร และมีพฤติกรรมปกปิดหรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อมิให้ติดตามทรัพย์สินนั้นได้ ตั้งแต่ ปี 2554-2559 จนเป็นเหตุให้กรมสรรพากรได้รับความเสียหาย ประมาณ 7,788,362,147.89 บาท และเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 46 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 213,000,000 บาท
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์เผยอีกว่า คดีที่ 2 เกี่ยวกับยาเสพติด ทรัพย์สินที่ยึดและอายัดไว้ชั่วคราว จำนวน 3 รายการ มูลค่ากว่า 81,000 บาท คือ นายบัญชา สุรินทร์ กับพวก เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคดีฟอกเงินอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ และจากการรวบรวมพยานหลักฐานของสำนักงาน ป.ป.ส.พบว่า บิดานายบัญชามีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอื่นๆ ของประเทศไทย การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แห่ง พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ทำให้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 81,000 บาท
คดีที่ 3 เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ทรัพย์สินที่อายัดไว้ชั่วคราว จำนวน 48 รายการ คือ นายประเสริฐ สุขขี กับพวก โดยเจ้าหน้าที่องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้แจ้งเบาะแสและประสานมายังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ผ่านศูนย์ดำรงธรรมกรมการปกครอง ว่าพบร้านนวดแผนโบราณชื่อ “สถานบริการนาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์” มีการนำหญิงสัญชาติพม่า (ไทยใหญ่) อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี จากการตรวจสอบพบว่าสถานบริการนาตารีมีการกระทำความผิดดังกล่าวจริง จึงร่วมกันตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิด และมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 48 รายการ ได้แก่ เบี้ยประกันชีวิตที่ชำระแล้ว และสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันชีวิต (โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบมูลค่าของทรัพย์สิน)
นอกจากนี้ ได้ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 6 คดี รวมทรัพย์สิน จำนวน 80 รายการ มูลค่ากว่า 31,061,000 บาท ได้แก่ คดีเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 4 คดี จำนวน 63 รายการ รวมมูลค่ากว่า 26,761,000 บาท ประกอบด้วย (1) คดีนายบัญชา สุรินทร์ กับพวก โดยมีการยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว จำนวน 52 รายการ ประมาณ 25,000,000 บาท และส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 52 รายการ พร้อมดอกผลรวมมูลค่าประมาณ 25,000,000 บาท (2) คดีนายโสพร นาถะพินธุ กับพวก มีมติให้ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 2 รายการ พร้อมดอกผลรวมมูลค่าประมาณ 125,000 บาท (3) คดีนายวิรัตน์ ก้อนคำตัน กับพวก ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 7 รายการ พร้อมดอกผล รวมมูลค่าประมาณ 236,000 บาท (4) คดีนายพรชัย กับพวก มีมติให้ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 2 รายการ พร้อมดอกผล รวมมูลค่าประมาณ 1,400,000 บาท
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์เผยต่อว่า คดีเกี่ยวกับการกรรโชกทรัพย์ 1 คดี จำนวน 14 รายการ รวมมูลค่ากว่า 3,300,000 บาท คือ คดีนายแสงไทย และนางศิริพร โคตรสมบัติ กับพวก โดยมีมติให้ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 14 รายการ พร้อมดอกผลรวมมูลค่าประมาณ 3,300,000 บาท และคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ 1 คดี จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท คือ คดีนายประเสริฐ สุขขี กับพวก มีมติให้ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 3 รายการ พร้อมดอกผลรวมมูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ปปง.จะเน้นการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในมูลฐานต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมและเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด