กองปราบปรามจ่อออกหมายเรียกราคา-ดีเจเป็นโขยง ทั้งลีเดีย ศรัณย์รัชต์, แพทตี้ อังศุมาลิน, มาร์ช-จุฑาวุฒิ, ไอซ์ อภิษฎา, วุ้นเส้น วิริฒิพา, ดีเจพุฒิ พุฒิชัย, ม้า-อรนภา ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับดอดมอบตัวเพิ่มอีก 1 ราย
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.30 น. น.ส.มธุรส แดงสัมฤทธิ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 909/49 ซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 769/2561 ลงวันที่ 11 เมษายน 2561 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ในคดีที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายบริษัท เมจิกสกิน จำกัด บริษัทรับผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2 บก.ป.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวสืบทราบว่า น.ส.มธุรส นั้นเป็นหนึ่งในผู้สั่งผลิตอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากบริษัท เมจิกสกิน จำกัด เพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มลูกค้า จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับในคดีดังกล่าวร่วมกับพวกรวม 8 คน
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้แล้วจำนวน 6 ราย เหลือเพียง น.ส.มธุรส ผู้ต้องหารายนี้ และ น.ส.ธนัญพรรธน์ บุญโญสิทธิ์ ผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี กระทั่ง น.ส.มธุรส ยอมเข้ามามอบตัวดังกล่าว ทำให้ขณะนี้จึงคงเหลือเพียง น.ส.ธนัญพรรธน์ ผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ น.ส.ธนัญพรรธน์เองก็ได้มีการประสานติดต่อเข้ามาเพื่อขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่ได้มีการระบุวันเวลาที่จะมาเข้ามาเข้ามอบตัวที่แน่นอน
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.มธุรสให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งผลิตสินค้าจากบริษัท เมจิกสกิน โดยอ้างว่าเป็นเพียงผู้ค้าคนกลางที่ไปรับสินค้าจากบริษัทดังกล่าวเพื่อนำมาขายต่อให้ลูกค้าอีกที โดยไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาขายนั้นไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวไปทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมามีผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากเครือข่ายเมจิกสกินฉ้อโกง ต่างเดินทางเข้ามาให้ปากคำต่อกับทางพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน โดยมีผู้เสียหายเดินทางเจ้าให้ปากคำกว่า 15 ราย ทำให้ขณะนี้ 2 วันที่ผ่านมามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติม 70 รายจากผู้เสียหายทั้งหมด 400 ราย
โดย น.ส.วรรณวิษา ถนอมสินธุ์ อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้เสียหายซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย เปิดเผยว่า รู้จักผลิตภัณฑ์เมจิกสกินผ่านทางเฟซบุ๊ก เห็นว่าแบรนด์ดังกล่าวน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีดารานักแสดงชื่อดังเป็นพรีเซ็นเตอร์จำนวนมาก เช่น ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ ม้า-อรนภา กฤษฎี เป็นต้น ทำให้เกิดความเชื่อถือจึงตัดสินใจเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยสมัครเป็นลูกข่ายในทีม “เจ๊เงาะ” ต่อมาก็เริ่มขายผลิตภัณฑ์ครั้งแรกในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยลงทุนไปจำนวน 1 หมื่นบาท จากนั้นก็มีลูกทีมในสังกัดซึ่งจะรับสินค้ามาจำหน่าย 4 ชนิด โดยการสั่งซื้อสินค้าจากแม่ข่ายแต่ละครั้งจะจัดส่งมาให้ผ่านทางไปรษณีย์ แต่พอหลังจากที่มีข่าวเผยแพร่ออกไปว่าสินค้าเมจิกสกินไม่มี อย.ตามที่กล่าวอ้าง และมีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานก็ทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้อีกเลยเนื่องจากลูกค้าหมดความน่าเชื่อถือ
น.ส.วรรณวิษากล่าวต่อว่า หลังจากที่สินค้าขายไม่ได้ก็มีการติดต่อไปที่เจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อทวงถามเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหาย เพราะมีการโฆษณาเชิญชวนให้ตัวแทนจำหน่ายหลงเชื่อ ก็ได้รับคำตอบว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้เพียงบางส่วน หรือก็ไม่ชดใช้เลย ทำให้ตัวแทนจำหน่ายจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินที่กู้ยืมนอกระบบมา บางคนก็ใช้เงินก้อนสุดท้ายในชีวิตมาลงทุน โดยมูลค่าความเสียหายรวมมากกว่า 500 ล้านบาท
“อยากฝากไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ให้เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทดังกล่าวเพื่อให้ยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งหมด และนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหาย อีกทั้งยังเรียกร้องให้ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงควรตรวจสอบการรับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าให้มากขึ้นว่าสินค้าที่รับงานมามีคุณภาพหรือไม่ เนื่องจากตัวดารานักแสดงมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ประกอบการรายย่อย และลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าเป็นอย่างมาก” น.ส.วรรณวิษากล่าว
มีรายงานแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวนจะมีการออกหมายเรียกดารานักแสดงล็อตแรก 7 คน ที่มีชื่ออาจถูกเชิญเข้าพบ ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน แพทตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ดีเจพุฒิ-พุฒิชัย เกษตรสิน ม้า-พรชัย หรืออรนภา กฤษฎีซึ่งพบว่าดารากลุ่มนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์หลักสินค้าดังกล่าวเพื่อมาสอบปากคำ หากพบความผิด พนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาต่อดาราดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะถูกดำเนินคดีในฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง เข้าข่ายดังนี้ ความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 มาตรา 41 การโฆษณาเครื่องสำอางต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือใช้ ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม วรรคสอง (1) ข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง ซึ่งมีอัตราโทษตามมาตรา 84 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ในฐานความผิด พ.ร.บ.อาหารและยา พ.ศ. 2522 มาตรา 40 ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร อันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร มีอัตราโทษตาม มาตรา 70 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือ ปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 41 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพหรือสรรพคุณ เพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษตามมาตรา 71 ปรับไม่เกินห้าพันบาท