กองปราบยื่นฝากขัง - ค้านประกัน 2 สามีภรรยา ผู้ต้องหาผลิตอาหารเสริม เครือบริษัท “เมจิก สกิน” ค้าเครื่องสำอางปลอม ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (23 เม.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.ชนินทร ง่วนสน พนักงานสอบสวน กก.1 กองบังคับการปราบปราม คุมตัวสองผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน บริษัท เมจิก สกิน จำกัด คือ นางวรรณภา พวงสน อายุ 34 ปี หัวหน้าทีมและเจ้าของบริษัท และ นายกร พวงสน อายุ 37 ปี ผู้ดูแลการเงิน โดยทั้งสองเป็นสามี - ภรรยา ชาว จ.นครราชสีมา ตามหมายจับที่ 759/2561 และ 757/2561 ของศาลอาญาลงวันที่ 11 เม.ย. 2561 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.- 4 พ.ค. นี้ เนื่องจากสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานบุคคลและผู้เสียหายอีกไม่น้อยกว่า 30 ปาก, รอผลตรวจสอบประวัติลายพิมพ์นิ้วมือจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และ รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2560 - 20 ก.พ. 2561 นางวรรณภา ผู้ต้องหาได้โพสต์ข้อความโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวอ้างว่า เป็นเจ้าของ บ.เมจิก สกิน จำกัด ที่ผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริมประเภทต่างๆ โดยอ้างว่าผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีส่วนผสมที่มาจากผลิตภัณฑ์ชั้นดีมีคุณภาพ ใช้แล้วเกิดผลในช่วงระยะเวลาอันสั้น และไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีการประกาศหาตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำนวนมาก อ้างว่า ผลิตภัณฑ์ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง สามารถสร้างรายได้ให้แก่ตัวแทนได้เป็นอย่างดี มีการนำดารานักแสดงมาโฆษณา จนมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อ และเข้าไปเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์สบู่เมสโซ่ (Mezzo Soup), เซรั่มเมสโซ่ (Mezzo Serum), วิตามินชิโนบิ (Fern Vitamini) และอาหารเสริมแบบน้ำชงผอมคลีโอ (Cleo) โดยมีผู้ต้องหากับพวกร่วมกันโฆษณาชักชวนประชาชนมาเป็นตัวแทนจำหน่าย
ต่อมาวันที่ 20 ก.พ. 2561 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้เข้าทำการตรวจค้นจับกุมโรงงานผลิตสินค้าดังกล่าว ออกประกาศว่าเป็นสินค้าที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ไม่ผ่านการตรวจรับรองจาก อย. แต่อย่างใด ทำให้กลุ่มผู้เสียหายไม่สามารถนำสินค้าออกจำหน่ายได้ เมื่อขอคืนสินค้า บ.เมจิก สกิน ก็ไม่รับคืนและไม่คืนเงินให้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 5 ล้านบาท การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ประกอบมาตรา 83 ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จนเป็นอุปสรรคหรือก่อความเสียหายต่อการสอบสวน และหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขัง ขณะที่ นายกิจจา อาลีอิสเฮาะ ทนายความของผู้ต้องหาทั้งสองได้ยื่นหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว นางวรรณภา และ นายกร คนละ 5 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับความผิดฉ้อโกงประชาชน กลุ่ม บ.เมจิก สกิน ดังกล่าว ถูกออกหมายจับทั้งหมด 8 ราย โดยมีผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวตามหมายจับและได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน 3 ราย คือ นายไมยสิทธิ์ สว่างธรรมรัตน์ ผู้ทำหน้าที่จัดโรงเรียนสอนรวย, นายพิร์นิธิ ติรณวัตถุภรณ์ ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้วางกลยุทธ์ และ น.ส.ตรีชฎา ใจสบาย ส่วน นายกสิทธิ์ วรชิงตัน หรือ หญิงย้วย ขณะนี้ยังอยู่ในการควบคุมของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม และอีก 2 ราย คือ น.ส.ธนัญพรรน์ บุญโญสิทธิ์ และ น.ส.มธุรส แดงสัมฤทธิ์ ผู้สั่งผลิตและเจ้าหน้าที่ยี่ห้อสินค้า อยู่ระหว่างติดตามตัว
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.40 น.เศษ หลังจากที่ พนักงานสอบสวน บก.ป. ได้ยื่นคำร้องฝากขังเพิ่มเติมในส่วนของ นางวรรณภา พวงสน อายุ 34 ปี หัวหน้าทีมและเจ้าของบริษัท เมจิก สกิน จำกัด เพิ่มอีก 4 สำนวน ในความผิดเดียวกันฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.343 แต่แยกพฤติการณ์ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบริษัท เมจิกฯ ขณะที่ในส่วนของนายกร สามี ก็ยื่นคำร้องฝากขังเพิ่มเติมอีก 1 สำนวนเช่นกัน โดย “นายกิจจา อาลีอิสเฮาะ” ทนายความของผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดประกันตัวในส่วนของนางวรรณภา อีก 4 สำนวนที่เพิ่มใหม่ สำนวนละ 500,000 บาท รวม 2 ล้านบาท และของนายกร อีก 500,000 บาทแล้ว
ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสอง โดยตีราคาประกันคนละ 500,000 บาทในแต่ละสำนวน พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล