MGR Online - อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เผยส่งสำนวน “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น” แจ้งความอันเป็นเท็จคืนให้กองปราบฯ แล้วเมื่อ 17 เม.ย.เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเดียวกับที่ ปปป.ดำเนินคดีอดีต ผบ.ก.เมืองกาญจน์ จึงเห็นควรส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ เตือนทั้งคู่อย่าเพิ่งดีใจ อัยการไม่ได้สั่งยุติคดี ทั้ง 5 ข้อหายังอยู่ครบ
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ นายประยุทธ เพ็ชรคุณ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยงค์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน ภายหลังพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้นำสำนวนคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมล กล่าวหานายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ข้าราชการครู ร.ร.แห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี และ น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าขายลอตเตอรี่ เป็นผู้ต้องหาที่ 1-2 ฐานแจ้งร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหาย, แจ้งให้พนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ รู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นแจ้งข้อความต่อพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิดและเป็นการแจ้งเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ตามป.อาญา มาตรา 172, 173, 174 มาส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนกองปราบปรามมีความเห็นสมควรฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง เมื่ออัยการสำนักงานคดีอาญาได้รับสำนวนคดีแล้ว นายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญเนื่องจากประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ จึงได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนคดีนี้ซึ่งประกอบด้วย นายอธึก คล้ายสังข์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน, ว่าที่ ร.ท.ประเวช รุ่งเจริญทอง อัยการผู้เชี่ยวชาญ เป็นคณะทำงาน, น.ส.จุฑามาศ รัตนาธรรมวัฒน์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงานและเลขานุการคณะทำงาน, นายเกรียงศักดิ์ สิงห์คำ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และนายนัทธี อินทรัตน์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการคณะทำงาน เพื่อพิจารณาและมีความเห็นเสนอต่อนายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา พิจารณามีคำสั่ง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากคณะทำงานได้ตรวจพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้วเห็นว่า นอกจากผู้ต้องหาทั้งสองรายถูกกล่าวหาในคดีนี้แล้วยังมีการกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองในคดีที่ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) กล่าวหา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี ว่าผู้ต้องหาทั้งสองสนับสนุน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล กระทำความผิดในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้น หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2550 มาตรา 89 เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปแล้ว
คณะทำงานอัยการจึงเห็นว่า การกระทำของผู้ต้องหาทั้งสองในคดีนี้มีพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องเดียวกันและเกี่ยวพันกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ดังกล่าว ซึ่งตาม พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 มาตรา 4 “ผู้ถูกกล่าวหา” ให้หมายความรวมถึง ตัวการ ผู้ใช้ หรือสนับสนุนในการกระทำการทุจริตในภาครัฐด้วย เมื่อการกระทำของผู้ต้องหาทั้งสองเป็นพฤติการณ์และเป็นเรื่องเดียวกันดังกล่าวคดีจึงอยู่ในอำนาจการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จึงมีความเห็นในสำนวนคดีอาญาที่ 4/2561 ให้คืนสำนวนคดีกับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (กก.5 บก.ป.) เพื่อให้ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 ข้อ 60 ว่าด้วยเรื่องการสั่งคดีที่เกี่ยวพันกับคดีที่อยู่ในอำนาจการไต่สวนของ ป.ป.ช. ซึ่งนายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา พิจารณาแล้วจึงมีคำสั่งให้ส่งคืนสำนวนให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามไป เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองที่พนักงานสอบสวนฝากขังไว้ที่ศาลอาญาและครบกำหนดฝากขังในวันนี้ (18 เม.ย.) ได้มีคำร้องขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาและศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อคดีอยู่ในอำนาจ ป.ป.ช.แล้ว ขั้นตอนจะเป็นอย่างไร นายประยุทธ เพ็ชรคุณ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของอัยการ อัยการจึงร้องขอปล่อยตัวในวันนี้ซึ่งเป็นวันครบฝากขังวันสุดท้ายและศาลมีคำสั่งปล่อยตัวแล้ว ซึ่งทางปฏิบัติผู้ต้องหาได้ประกันตัวไปก่อนหน้านี้ จากนั้นอัยการแจ้งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามให้มารับสำนวนกลับไปส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาและหากมีการฟ้องคดีก็จะอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาทุจริต มาตรา 8 ที่ ป.ป.ช.ส่งให้อัยการฟ้องต่อศาลต่อไป
นายประยุทธกล่าวต่อว่า ครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่น อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่าอัยการไม่ได้สั่งไม่ฟ้อง อัยการไม่ได้สั่งยุติคดี แต่พิจารณาในข้อกฎหมายแล้วเห็นว่าต้องให้ ป.ป.ช.ทำต่อ ดังนั้น ข้อหา ป.อาญา มาตรา 172, 173, 174 ยังอยู่ และจะรวมไปกับคดีในข้อหา 157, 200 หาก ป.ป.ช.พิจารณาก็ต้องรวมคดีดังกล่าวต่อไปด้วย
ทั้งนี้ การพิจารณาของอัยการไม่ได้ล่าช้า แต่เพราะเอกสารมีจำนวนมาก อีกทั้งต้องเรียกสำนวนในส่วนข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่มาดูด้วย แล้วมาประชุมกันในช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งอัยการต้องทำงานรอบคอบถี่ถ้วน ไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู