xs
xsm
sm
md
lg

ตร.หอบสำนวนหวย 30 ล้านส่งอัยการฟ้อง “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น” แจ้งความเท็จ ไม่ฟ้องลุงจรูญยักยอก-ลักทรัพย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจสอบสวนกลาง-กองปราบปราม ส่งสำนวนเห็นควรสั่งฟ้อง “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น” แจ้งความเท็จ ส่วน “หมวดจรูญ” ตำรวจเห็นควรสั่งไม่ฟ้องข้อหาลักทรัพย์-ยักยอกทรัพย์



ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต. ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ที่ จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. และพร้อมคณะได้เข้าพบนายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา, นายพรชัย ชลวาณิชกุล และนายเจษฎา อรุณชัยภิรมย์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เพื่อส่งมอบสำนวนคดีอาญา 2 สำนวน ที่ ร.ต.ท.จรูญ หรือหมวดจรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ เป็นผู้กล่าวหานายปรีชา หรือครูปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี เป็นครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาที่ 1 และนางรัตนา หรือเจ๊บ้าบิ่น สุภาทิพย์ อายุ 58 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาดเรดซิตี้ ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดร่วมกันแจ้งข้อความเท็จฯ และที่ครูปรีชาเป็นผู้กล่าวหาหมวดจรูญ ผู้ต้องหาในความผิดลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์สิ่งของตกหล่น หรือรับของโจร พร้อมเอกสารหลักฐาน 3 ลัง และ 2 แฟ้มใหญ่ จำนวนเอกสารกว่า 1,280 หน้า และความเห็นที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีทั้งสอง โดยมีนายอธึก คล้ายสังข์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 และอัยการประจำสำนักงาน พร้อมด้วย นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์, นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังรับมอบสำนวนคดีทั้งสองแล้ว

นายธรัมพ์ รองโฆษกอัยการฯ กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนนำสำนวนคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน มาส่งให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา 2 สำนวน สำนวนคดีอาญาที่ 4/2561 ที่ ร.ต.ท.จรูญ หรือหมวดจรูญ วิมูล ข้าราชการบำนาญตำรวจ เป็นผู้กล่าวหานายปรีชา หรือครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาที่ 1 และนางรัตนา หรือเจ๊บ้าบิ่น สุภาทิพย์ แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาด ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาต่อพนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และรู้ว่ามิได้กระทำผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด โดยเป็นการแจ้งเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษ จากเหตุเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2560 เวลา 20.47 น. และวันที่ 28 พ.ย.60 เวลา 16.00 น.ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ต.ท่ามะขาม อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเห็นควรฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ ผู้ต้องหาที่ 1 และนางรัตนา หรือบ้าบิ่น สุภาทิพย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ทุกข้อกล่าวหา โดยสำนวนคดีนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับกุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ.2561 ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยื่นฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองต่อศาลอาญาไปแล้ว และจะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 3 ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ ดังนั้น ในวันนี้พนักงานสอบสวนจึงไม่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาพร้อมสำนวนให้อัยการ เนื่องจากถือว่าตัวผู้ต้องหาทั้งสองถูกควบคุมอยู่ในอำนาจของศาลอาญาแล้ว

และสำนวนคดีอาญาที่ 3/2561 ที่ครูปรีชาเป็นผู้กล่าวหาหมวดจรูญ เป็นผู้ต้องหาในความผิดลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์สิ่งของตกหล่น หรือรับของโจร จากเหตุเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2560 เวลา 16.30 น. ถึงวันที่ 3 พ.ย. 2560 เวลากลางวัน ต่อเนื่องกัน ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ต.ท่ามะขาม อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เห็นควรไม่ฟ้องหมวดจรูญ ผู้ต้องหา และผู้ต้องหาไม่ถูกควบคุมตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อหาที่มีการสรุปสำนวนส่งฟ้องครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่นในวันนี้กำลังจะเข้าการฝากขังครั้งที่ 3 ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ โดยคดีสามารถฝากขังได้ 4 ผัด รวม 48 วัน ซึ่งฝากขังครั้งสุดท้ายจะครบกำหนดวันที่ 18 เม.ย.นี้

ทั้งนี้ เนื่องจากคดีทั้งสองคดีเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจติดตามความคืบหน้า และมีการเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นคดีสำคัญ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 ข้อหา 53 ซึ่งสำนักงานคดีอาญาจะได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนทั้งสองคดีตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดดังกล่าวต่อไป และเมื่อพนักงานอัยการซึ่งเป็นคณะทำงานได้ร่วมกันพิจารณาสำนวนทั้งสองแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป

ด้านนายพิทักษ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า ทางสำนักงานอัยการคดีอาญาในความรับผิดชอบของตนจะเตรียมตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบและพิจารณาสำนวนคดีนี้โดยละเอียด เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ประชาชนสนใจ โดยจะตั้งนายอธึก คล้ายสังข์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งนายอธึกก็มีคณะทำงาน เมื่อคณะทำงานพิจารณาสำนวนโดยละเอียดแล้วก็จะนำเสนอสำนวนมายังนายพรชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ก่อนที่สำนวนจะส่งมาถึงตนซึ่งจะเป็นผู้พิจารณาสั่งในครั้งสุดท้ายตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยเรื่องคดีสำคัญที่ประชาชนสนใจ

เมื่อถามว่าคดีนี้จะครบกำหนดฝากขังผัดที่ 4 ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ อัยการมีเวลาพิจารณาสำนวน 15 วัน นายพิทักษ์กล่าวว่า โดยหลักแล้วเมื่ออัยการรับสำนวนแล้วตัวผู้ต้องหาถูกอำนาจศาลฝากขังอยู่ จึงเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหา เราก็จะต้องพิจารณาสำนวนให้แล้วเสร็จก่อนครบฝากขังครั้งสุดท้าย ซึ่งตามหลักเราจะต้องพิจารณาให้ทัน ถ้าพยานหลักฐานเพียงพอ เราก็จะฟ้องให้ทันภายในฝากขังครั้งสุดท้าย

เมื่อถามเรื่องการวินิจฉัยในคดีอาญาจะมีผลวินิจฉัยได้ว่าใครเป็นเจ้าของลอตเตอรี่หรือไม่ หรือต้องรอผลคำพิพากษาคดีแพ่ง นายพิทักษ์กล่าวว่า โดยหลักแล้วคดีอาญาจะไม่ต้องรอผลทางคดีแพ่ง ทางอัยการจะพิจารณาจากสำนวนที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมาว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหรือไม่ สำนวนที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งตัว ร.ต.ท.จรูญ ไม่ได้ถูกฝากขัง ทางพนักงานอัยการก็จะพิจารณาทำความเห็น หากมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนตามกฎหมายจะต้องส่งสำนวนพร้อมความเห็นไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทำความเห็นอีกครั้ง หาก ผบ.ตร.เห็นว่าควรสั่งไม่ฟ้องตามความเห็นของพนักงานอัยการ คดีก็เป็นที่ยุติคือสั่งไม่ฟ้อง แต่หากมีความเห็นแย้งก็จะต้องส่งอัยการสูงสุดชี้ขาดตามกฎหมายต่อไป ส่วนสำนวนนายปรีชา เราก็ต้องดูจากพยานหลักฐานว่าน่าจะได้กระทำผิดตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหามาหรือไม่ เราต้องพิจารณาว่าอะไรจริงอะไรเท็จ ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้

เมื่อถามว่าหากคดีอาญามีความต่อเนื่องกับคดีแพ่ง ตามหลักกฎหมายแล้วทางคดีแพ่งต้องรอผลคดีอาญาหรือไม่ นายพิทักษ์กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนศาลแพ่งได้ ซึ่งคดีอาญาและคดีแพ่งจะต้องแยกกัน แต่ศาลบางที่ที่มีการฟ้องคดีแพ่งก็อาจจะมีคำสั่งให้รอผลในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องก่อน ตรงนี้จึงขึ้นอยู่กับศาลที่พิจารณาคดีว่าจะมีความเห็นอย่างไร

เมื่อถามว่าหากไม่รอผลทางคดีอาญา แล้วศาลแพ่งมีคำพิพากษามา เป็นไปได้หรือไม่ว่าคำพิพากษาอาจจะมีความขัดแย้งกันเอง นายพิทักษ์กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นไปได้

นายประยุทธ รองโฆษกอัยการฯ ได้กล่าวตอบเพิ่มเติมว่า ตามหลักกฎหมายแล้วคดีแพ่งจะต้องถือตามคดีอาญา แต่คดีอาญาจะไม่ต้องถือตามคดีแพ่ง ซึ่งคดีแพ่งเป็นเรื่องของคู่ความที่จะต้องไปว่ากล่าวกันในศาล จึงไม่สามารถตอบแทนศาลได้ แต่โดยข้อกฎหมาย คดีแพ่งจะต้องถือตามคดีอาญา

เมื่อถามต่อว่าคดีเกี่ยวพันกัน พยานหลักฐานในคดีแพ่งและอาญาจะเป็นชุดเดียวกันหรือไม่ นายพรชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา ตามหลักแล้วจะต้องรอผลคำพิพากษาจากคดีอาญาเป็นหลัก ส่วนจะวินิจฉัยประเด็นคดีอย่างไรต่อไป ตอนนี้ถือว่าเร็วไปที่จะตอบ เพราะเนื้อหาที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนมา คณะทำงานที่เพิ่งตั้งขึ้นมาทั้ง 5 คน ยังไม่มีโอกาสเข้าไปรู้เนื้อหาในสำนวน

เมื่อถามย้ำว่าในการพิจารณาสำนวนคดีอาญาจะไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ใช่หรือไม่ นายธรัมพ์ รองโฆษกอัยการฯ กล่าวว่า คดีอาญาเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อเสรีภาพของมนุษย์ เราจะไม่รอพิพาททางแพ่ง การชี้ในคดีอาญาจะเป็นการชี้ความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชี้ในเรื่องกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินได้ เราชี้ได้แต่เพียงว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่

เมื่อถามว่าครูปรีชา และนางรัตนา หรือเจ๊บ้าบิ่น ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามาหรือไม่ นายพิทักษ์กล่าวว่า ยังไม่มีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามาแต่อย่างใด แต่ระหว่างที่เราพิจารณาสำนวนอยู่ เราก็ไม่ทราบว่าจะมีการยื่นเข้ามาหรือไม่ หากมีการยื่นเข้ามาเราก็มีระเบียบในการพิจารณาเรื่องหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าหลังได้รับสำนวนแล้วมีความกดดันหรือไม่ นายพิทักษ์กล่าวว่า ไม่มีความกดดัน เราพิจารณาคดีไปตามปกติ เรารับสำนวนลักษณะแบบนี้มาแทบทุกวัน พิจารณาไปตามหลักฐาน เราไม่ได้พิจารณาสำนวนไปตามกระแสสังคม แต่เมื่อคดีนี้เป็นคดีสำคัญตามระเบียบเราก็จะต้องมีการรายงานให้อัยการสูงสุดทราบ

ส่วน พล.ต.ต.ชาญ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน กล่าวถึงเรื่องพยานหลักฐานที่ส่งมาในวันนี้ว่า พยานหลักฐานทุกอย่างเรายึดถือตามสำนวนของตำรวจภูธรภาค 7 ในพยานทุกปากไม่ได้มีการตัดพยานออกแม้แต่ปากเดียว จะมีเพิ่มเติมก็เป็นพยานที่เกี่ยวกับนิติวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เราสามารถพิสูจน์ในสิ่งเหล่านี้ได้ ส่วนสำนวนที่มีการโยกย้ายผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี และไม่ได้เกี่ยวข้องกับสำนวนนี้

เมื่อถาม ผบก.ป.มีความคิดเห็นอย่างไร ที่ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือฟ้า พยานครูปรีชา ได้ฟ้องคดีต่อ ผบช.ก.และ ผบก.ป.ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แล้วถอนฟ้องในเวลาต่อมา พล.ต.ต.ไมตรี ผบก.ป.กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา ที่มีกระแสหรือคลิปออกไปทำนองว่าไปฟ้องแล้วเพื่อต่อรองหรือมาเจรจา ยืนยันว่าไม่มี และจากที่ปรากฏคลิปเสียงอะไรต่างๆ ตนเองนั้นไม่ได้ฟัง ถ้ากล่าวพาดพิงตนไม่ถือ แต่ถ้าส่วนไหนกล่าวพาดพิงองค์กร โดยเฉพาะกองปราบปรามให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งตนยังไม่เห็น แต่จะกลับไปทบทวนและฟังให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

“เรียนว่า โดยส่วนตัวถ้าพาดพิงถึงผม ผมไม่ว่า แต่ถ้าพาดพิงองค์กร ผมต้องออกมาปกป้อง และยืนยันว่าไม่มีการไปเจรจาต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น ผิดว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก” ผบก.ป.ระบุ

เมื่อถามว่า หมายถึงกรณีที่มีคลิปเสียงออกมาล่าสุดกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับผลประโยชน์ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ไมตรีกล่าวว่า ถ้าพูดถึงองค์กรให้เสียหาย ตนดำเนินคดีแน่นอน

เมื่อถามว่ากรณีมีอัยการท่านหนึ่งแสดงความคิดเห็นคดีอาญาที่เกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้าน จะมีผลต่อการพิจารณาของคณะทำงานคดีนี้หรือไม่ นายโกศลวัฒน์ รองโฆษกอัยการฯ กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวและสื่อมวลชนไปถามท่านเอง ซึ่งคณะทำงานอัยการจะพิจารณาสั่งคดีรอบคอบ ตามพยานหลักฐานในสำนวนของพนักงานสอบสวน





กำลังโหลดความคิดเห็น