xs
xsm
sm
md
lg

“ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น” รายงานตัวต่อศาล ลั่นมีคลิปเด็ดส่ง ป.ป.ช.หักล้างกองปราบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น” รายงานตัวศาลขอรับเงินประกันคืน ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ ยันคำเดิมเป็นเจ้าของหวย 30 ล้าน และไม่เคยรู้จักผู้การกาญจนบุรีมาก่อน ลั่นมีหลักฐานคลิปเสียงพร้อมส่งให้ ป.ป.ช.หักล้างหลักฐานกองปราบฯ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (19 เม.ย.) นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา อายุ 50 ปี, น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น อายุ 58 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาดเรดซิตี้ ผู้ต้องหาคดีแจ้งความเท็จลอตเตอรี่ 30 ล้าน และทนายความได้เดินทางมาศาลเพื่อเข้ารายงานตัว กับขอรับเงินประกันตัวคืน พร้อมรับทราบคำสั่งที่อัยการมีความเห็นให้ส่งสำนวนคดีนี้ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาร่วมกับข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หน้าที่มิชอบ ที่มี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ถูกดำเนินคดีฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

โดยวันนี้ ครูปรีชา และ เจ๊บ้าบิ่น เดินทางมาศาลโดยสีหน้ายิ้มแย้ม ต่อมาในเวลา 10.50 น. หลังเข้ารายงานตัวแล้ว นายปรีชาให้สัมภาษณ์ว่าขอขอบคุณสำนักงานอัยการสูงสุดที่ได้มีคำสั่งส่งสำนวนไป ป.ป.ช.ในการพิจารณาคดีต่อไป ขอบคุณสื่อมวลชนที่ห่วงใย ขอบคุณประชาชนที่ติดตามข่าว อีกสักระยะหนึ่งในกระบวนการศาลทุกคนคงได้รู้ว่าความจริงคืออะไร ใครถูกใครผิดอย่างแท้จริง รู้สึกดีใจว่าการทำงานในแต่ละด้านของเจ้าหน้าที่ ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองปราบปราม อัยการสูงสุด ทุกท่านทำงานด้วยความยุติธรรม

นายปรีชากล่าวถึงคดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาทว่า ทุกอย่างก็คือความจริง อย่างที่ตนเคยบอกทุกครั้ง ความจริงคือความจริง พยานหลักฐานของเราทุกคนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ เห็นเหตุการณ์จริงๆ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย เพราะทุกคนเห็นจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่แจ้งความลอตเตอรี่หายนั้น รู้จักกับ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี มาก่อนหรือไม่ นายปรีชากล่าวว่า วันที่แจ้งความก็ไปพบพนักงานสอบสวน ไม่รู้จักผู้การเลย ลงบันทึกประจำวันแจ้งความว่าลอตเตอรี่หาย ยืนยันไม่เคยรู้จัก ไม่เคยคุยกันมาก่อน มารู้จักวันที่พนักงานสอบสวนโทร.ตามบอกว่าผู้การขอพบเพื่อให้ชี้แจงเรื่องราวต่างๆ พร้อมนำพยานหลักฐานไปให้ดู อย่างไรก็ดี หลักฐานต่างๆ ที่เคยพูดถึงรวมทั้งคลิปเสียงที่เป็นวัตถุพยานนั้นก็จะนำไปต่อสู้และเสนอศาลทั้งหมดในคดีที่ได้ฟ้องหมวดจรูญไว้เอง โดยเรื่องของคลิปเสียงอยู่ในสำนวนแล้ว ที่ออกมาทั้งหมดจะเป็นการตัดต่อบ้างหรือเปล่าตนไม่ทราบ ต้องเข้ากระบวนการศาลต่อไป

นายปรีชาระบุด้วยว่า หลังจากลอตเตอรี่หายและกลายเป็นคดีหลายเรื่องนั้นก็ไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการครู ขณะนี้ก็ยังไม่มีการสอบหรือลงโทษใดๆ

ขณะที่นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความของครูปรีชา กล่าวถึงการสู้คดีคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาทว่า ไม่หนักใจ เราเต็มที่อยู่แล้ว หลังจากนี้เราก็ต้องทำหนังสือไปที่ ป.ป.ช. นำพยานหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานที่เรามีอยู่ไปหักล้างความเห็นของกองปราบปรามให้ ป.ป.ช.พิจารณา เป็นประจักษ์พยานของเก่าบางส่วนและของใหม่ที่ตนไปติดตามพบมา ครูปรีชาได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าหวยเป็นของครูปรีชา ส่วนเรื่องคดีแพ่งนั้นเป็นเรื่องของคู่ความในศาล เราไม่ก้าวล่วง ไม่หนักใจ ความจริงไม่ว่าจะเป็นแพ่งหรืออาญาเราก็สามารถพิสูจน์ได้อยู่แล้ว เตรียมตัวไปพูดความจริงต่อศาล

เมื่อถามถึงความคืบหน้าฟ้องคดี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ในข้อหาลักทรัพย์ฯ ต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี นายวรยุทธกล่าวว่า ได้ฟ้องเป็นคดีอาญา นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 4 มิ.ย.นี้ เชื่อว่าคดีน่าจะเสร็จก่อนคดีที่อัยการส่งให้ ป.ป.ช.อยู่แล้ว ส่วนคดีที่ ป.ป.ช.เราก็จะทำหนังสือขอความเป็นธรรมไป นำเสนอพยานหลักฐาน การรู้เห็นของพยานให้ ป.ป.ช.วินิจฉัย

ส่วนหนักใจหรือไม่ ที่อัยการให้ส่งสำนวนคดีแจ้งความเท็จไปให้ ป.ป.ช.พิจารณาร่วมข้อหาสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ที่อัตราโทษอาจจะหนักขึ้น นายวรยุทธกล่าวว่า ไม่ได้ทำให้ความผิดมากขึ้นก็เหมือนเดิม เราก็ไม่กังวลใจอะไรเชื่อมั่นในความจริง และจะนำพยานหลักฐานพิสูจน์ความจริงในศาลได้

เมื่อถามย้ำว่า คดีอาญาที่ฟ้องหมวดจรูญเองจะเป็นคดีสำคัญ ที่จะนำไปอ้างต่อ ป.ป.ช.ด้วยหรือไม่ นายวรยุทธกล่าวว่า แน่นอน เราเชื่อมั่นว่าการที่เรานำคดีอาญาไปฟ้องเอง ปรารถนาจะนำพยานหลักฐานเข้าสู่ศาล เพื่อจะให้ศาลพิจารณาก่อน แล้วนำคำสั่งศาลไปประกอบการพิจารณาของ ป.ป.ช.ต่อไป

ขณะที่นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความของเจ๊บ้าบิ่น กล่าวว่า คดีที่ ป.ป.ช.ดำเนินการในข้อหาสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ นั้น โทษจะสูงกว่า 2 ใน 3 สูงกว่าที่กองปราบปรามยื่นให้อัยการอยู่แล้ว การไม่ฟ้องที่ศาลอาญาก็เป็นผลดีสำหรับคนที่ยากจนไม่ต้องมาขอประกันตัวเดินทางมาศาลบ่อยๆ ลดภาระลง แต่เรื่องคดีก็ถือว่าเท่าเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็สู้ไปตามขั้นตอน

ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. กล่าวถึง กรณีการโอนคดีหวย 30 ล้าน ไปให้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.เป็นฝ่ายดำเนินการ เนื่องจากว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการตำรวจระดับสูงคือพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ซึ่งในส่วนนี้หากผลการสอบสวนของคณะกรรมการปปช.มีวินิจฉัยว่าผิดจริง ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นข้าราชการก็จะเข้าข่ายความผิดฐาน 157 และส่วนของผู้ร่วมกระทำความผิดคือ นายปรีชา ใคร่ครวญ และนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ก็จะมีความผิดฐานให้การสนับสนุนเจ้าพนักงานให้กระทำผิด ซึ่งก็จะมีอัตราโทษที่สูงกว่า โทษในความผิดฐานแจ้งความเท็จที่เคยถูกดำเนินคดีอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับข้อหาที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ถูกพนักงานสอบสวนดำเนินคดีก็คือ ข้อหา 1.ผู้ใดแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความต่อพนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173

3.ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความต่อพนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำผิดเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งถ้าการแจ้งความนั้น เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

4.ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนกรณีคดีถูกส่งไปให้คระกรรมการ ปปช. ดำเนินการตาม มาตรา 157 คือผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าโดยมิขอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนครูปรีชา และเจ๊บ้าบิ่น ก็จะถูกดำเนินคดีฐานสนับสนุน ตามมาตรา 86 “ผู้ใดกระทำการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกให้ผู้อื่นกระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำผิดจะมิได้รู้ หรือต้องการช่วยเหลือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น”







กำลังโหลดความคิดเห็น