MGR Online - ตำรวจท่องเที่ยวโชว์ผลงานจับพนักงานบริษัทนำเที่ยวลอยแพลูกทัวร์เที่ยวหลีเป๊ะ อ้างผู้จัดการหอบเงินหนี เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (16 เม.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 (กก.1 บก.ทท.1) ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม น.ส.ธัญญรัศม์ สารสังวาล อายุ 31 ปี, น.ส.ณวนัส โพธิ์สุข อายุ 34 ปี, น.ส.ขวัญฤทัย มนต์แก้ว อายุ 22 ปี, น.ส.สถาพร ทองพรหม อายุ 36 ปี, น.ส.ธนิภา กัณหาชาติ อายุ 39 ปี และ น.ส.มลฑาทิพย์ พลอยประภัสมุข อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสตูล ที่ จส.78-83/2561 ลงวันที่ 11 เม.ย. 61 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดฯ หรือโฆษณาอันเป็นเท็จ, ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว, ร่วมกันไม่ปฏิบัติตามการโฆษณาหรือชวนเชื่อเกี่ยวกับรายการนำเที่ยว โดยมูลค่าความเสียหายประมาณ 10,000,000 บาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 24 มี.ค. 61 มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 44 ราย แจ้งความร้องทุกข์ สภ.เกาะหลีเป๊ะ เพื่อดำเนินคดีกับ นายถาวร ไกรแก้ว อายุ 51 ปี เจ้าของบริษัท ไทยอัลฟา อันดามัน จำกัด และนายประทีป แก้วนนท์ อายุ 43 ปี ผู้จัดการบริษัทฯ ในข้อหาประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการ อันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักท่องเที่ยว ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับธุรกิจนำเที่ยวหรือตามที่ได้โฆษณาหรือชี้ชวนไว้ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 แก้ไข พ.ศ. 2559 หลังได้ซื้อแพกเกจทัวร์บริษัทดังกล่าว แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่สามารถท่องเที่ยวได้ตามกำหนด ต่อมาเจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุมนายถาวร ไกรแก้ว พร้อมแจ้งข้อหาดังกล่าว ส่วนนายประทีป แก้วนนท์ อยู่ระหว่างการหลบหนี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เผยอีกว่า จากการสืบสวนพบว่าบริษัทดังกล่าวมีการจดทะเบียนถูกต้อง โดยโฆษณาขายแพ็คเกจในราคาต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น และยังจัดโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 ลักษณะของถูกและดีมีอยู่จริง โดยการขายแพกเกจจะมีอายุการใช้งานภายใน 2 ปี ทำให้มีประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ แต่เมื่อนายประทีป ผู้ต้องหาคนสำคัญที่กำลังหลบหนีได้นำเงินหมุนเวียนของบริษัทกว่า 10,000,000 บาทไปด้วย จึงทำให้บริษัทได้ปิดกิจการลง และมีผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 1,600 คน กระทั่งวันที่ 11 เม.ย. ศาลจังหวัดสตูล ได้อนุมัติหมายจับพนักงานบริษัทอีก 6 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงนำมาสอบสวนเพิ่มเติมในวันนี้
“โดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหาบางส่วนให้การรับสารภาพและปฏิเสธ พร้อมซักทอดไปยังนายประทีป ซึ่งพบประวัติเคยก่อเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้วเมื่อปี 2557 ในตอนนั้นเป็นผู้จัดการบริษัท กระบี่ภูพระนางรีสอร์ท และถูกตำรวจท่องเที่ยวจับกุม ก่อนที่จะพ้นโทษออกมาก่อเหตุอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีหมายจับข้อหาฉ้อโกงประชาชนติดตัวอีกหลายคดี” รอง ผบช.ทท.กล่าว
ด้าน น.ส.เบ็ญจพร หรือแก้ว (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า ตนเห็นโปรโมชันของบริษัททัวร์ดังกล่าวในสื่อออนไลน์ซึ่งมีการจดใบอนุญาตถูกต้อง มีผู้ติดตามกว่า 1.5 แสนคน และรีวิวจำนวนมาก โดยแพกเกจซื้อ 1 แถม 1 เที่ยว 3 วัน 2 คืน ในราคา 7,990 บาท จึงสนใจและชักชวนเพื่อนรวม 5 คน ไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เมื่อช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. กระทั่งเดินทางไปถึงมีรถตู้มารับส่งที่สนามบินไปส่งขึ้นเรือข้ามเกาะหลีเป๊ะ แต่ไม่สามารถเข้าที่พักได้เพราะบริษัทดังกล่าวยังไม่ทำการชำระเงิน ทางกลุ่มตนต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อนทั้งค่ารถตู้ ค่าเรือ ค่าดำน้ำ และที่พัก อีก 23,000 บาท รวมเงินที่จ่ายทั้งหมดประมาณ 43,000 บาท จากนั้นไปแจ้งความที่ สภ.หลีเป๊ะ พบว่ามีผู้เสียหายจำนวน 44 คนถูกลอยแพเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ นอกจากนี้ ต้องขอบคุณตำรวจและชาวบ้านเกาะหลีเป๊ะที่ช่วยเหลืออย่างดีซึ่งตนรู้สึกประทับใจและจะไปเที่ยวอีก