“เปรมชัย” ยันไม่ได้ฆ่าเสือดำ เสียใจถูกสังคมมองแบบนี้ ลั่นความจริงจะปรากฏในชั้นศาล

MGR Online - “ศรีวราห์” ร่วมสอบปากคำ “เปรมชัย” พร้อมคุมตัวไปฝากขังก่อนอายัดตัว แจ้งเพิ่ม 3 ข้อหา เจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยันว่าไม่ได้ฆ่าเสือดำ เสียใจที่ถูกสังคมมองแบบนี้ เชื่อความจริงจะปรากฏในชั้นศาล


วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่ บก.ปทส. เพื่อร่วมสอบปากคำนายเปรมชัย กรรณสูต หลังจากมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปทส.ตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อหา โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวก่อนสอบปากคำนายเปรมชัยว่า เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าวซึ่งมาติดตามดูสำนวนคดีใน 3 ข้อกล่าวหาที่ได้ดำเนินการร้องทุกข์ไปแล้ว ประกอบด้วย ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ปกติตาม ป.วิอาญา คำให้การของผู้ต้องหาไม่ให้รับฟังอยู่แล้ว ซึ่งมีวัตถุพยานยืนยันอยู่ เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ โดยหลักฐานในเรื่องของอาวุธปืนและงาช้างไม่เหลืออะไรต้องตรวจสอบเพิ่มแล้ว

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) ก็สามารถสรุปสำนวนได้ในเรื่องข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องข้อกฎหมายยังมีปัญหาอยู่จึงยังไม่ให้สรุป โดยข้อกฎหมายที่มีปัญหาคือกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท อาทิ ปืนคาบศิลา เป็นโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุหรือไม่ วันนี้ก็ได้เชิญทางกรมศิลปากรมาดู หากพบว่าเป็นก็จะมีข้อหาเพิ่มเติมขึ้นมาอีกในเรื่องของ พ.ร.บ.โบราณสถานและวัตถุ ส่วนเรื่องงาช้างเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.งาช้างปี 2558 หรือไม่ หรือจะเป็นความผิดในกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องลักทรัพย์หรือรับของโจรหรือไม่ อันนี้คือปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น โดยในเรื่องงาช้างได้เชิญทางไซเตสมา ทั้งนี้จะต้องสอบถามจากทั้ง 2 หน่วยงาน นอกจากนี้จากข้อเท็จจริงตำรวจมีพยานหลักฐานครบถ้วนในการดำเนินคดีใน 3 ข้อหาที่ได้ร้องทุกข์ไปแล้ว ยกเว้นข้อหาที่ผมระมัดระวังว่าจะเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทหรือไม่ เดี๋ยวจะเป็นการฟ้องซ้ำขึ้นมา

พล.ต.อ.ศรีวราห์ยังกล่าวอีกว่า ส่วนข้อหาติดสินบนจะต้องไปพูดคุยกับ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.ก่อน เพราะมีพยานบุคคลอยู่แล้ว คงไม่กังวล ส่วนจะมีข้อกำชับหรือสั่งการใดเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขอไปฟังจากกรมศิลป์และทางไซเตสก่อน คาดว่าจะมีข้อสั่งการเพิ่มเติมแน่ว่าให้ทำแค่ไหนอย่างไร เพราะวันนี้มีการแจ้งข้อหา 3 ข้อหาใน 3 คดีพร้อมกัน ยังไม่มีการออกหมายจับ จะให้ใครไปฝากขังก่อนแล้วใครจะอายัดตัวก็จะพิจารณาสั่งการ ส่วนขั้นตอนการให้ประกันตัวที่นี่ได้สั่งห้ามแน่นอน ให้นำตัวไปฝากขังก่อน ซึ่งเงื่อนไขการห้ามออกนอกประเทศคงไม่ยื่น เพราะอยู่ในดุลพินิจของศาลอยู่แล้ว คงไม่ไปก้าวล่วง ส่วนกรณีที่นางคณิตตา กรรณสูต ภรรยาของนายเปรมชัย และ น.ส.วันดี สมภูมิ ขอเลื่อนตามหมายเรียกนั้นก็จะทำการออกหมายเรียกไปใหม่ภายใน 7 วัน สำหรับนายเปรมชัยนั้นจะมีการซักถามบ้าง แต่คงไม่ถอดหมวก และไม่ได้เป็นห่วงว่าโซเซียลฯ จะว่าอย่างไร แต่เป็นห่วงว่าทางฝั่งนายเปรมชัยจะฟ้องกลับพนักงานสอบสวนอย่างไรมากกว่า

ต่อมาเวลา 12.00 น. คณะทำงานพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวได้แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นประธาน พร้อมเปิดเผยว่า ในส่วนของการให้สินบนนั้นให้ทำการสอบพยานเพิ่มเติมว่า มีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ และเป็นบุคคลใด เบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวนนายเปรมชัยในการปฏิเสธ แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานในการเอาผิดแน่นอน สำหรับคดีอาวุธปืน หากเข้าข่ายวัตถุโบราณก็จะมีการดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 ข้อหา โดยสำนวนอาวุธปืนจะให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ส่วนประเด็นเรื่องงาช้าง เมื่อไม่ใช่งาช้างไทยก็ต้องดูว่าอำนาจจะเป็นทางตำรวจหรือเป็นของดีเอสไอในการดำเนินการ และจะทำหนังสือไปยังกรมศุลกากร เพื่อสอบถามว่านายเปรมชัยและพวกมีการเคยขออนุญาตนำเข้างาช้างหรือไม่ นอกจากนี้หากพบว่างาช้างเป็นของต่างประเทศ ก็ต้องตรวจสอบว่าเคยมีการลักขโมยหรือไม่

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า สำหรับพยานหลักฐานทั้ง 3 คดี มีความแน่นอนและสมบรูณ์แน่น ส่วนนางคณิตา และ น.ส.วันดี ผู้เซ็นรับรองงาช้าง ได้มีการให้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ไปแล้ว ซึ่งให้มารับทราบข้อหาภายในวันที่ 20 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็จะควบคุมตัวฝากขังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีเหตุที่จะต้องคัดค้านการประกันตัวนายเปรมชัย สุดแล้วแต่ดุลพินิจของศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่

ต่อมาเวลา 14.10 น. ภายหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายเปรมชัยเดินทางออก บก.ปทส.เพื่อไปขออำนาจศาลอาญาเพื่อฝากขัง ทั้งนี้ นายเปรมชัยได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าเสือดำ ส่วนตัวรู้สึกเสียใจที่ถูกสังคมมองแบบนี้ อีกทั้งเชื่อว่าความจริงจะปรากฏในชั้นศาล