MGR Online - “ศรีวราห์” ลั่นเสือดำไม่ตายฟรี จ่อส่งสำนวนให้อัยการพรุ่งนี้ แจงปมดรามาไล่นิติกรกรมอุทยานฯ ออกห้องสอบสวน ชี้ไม่จำเป็นต้องร่วมรับฟังเพราะ “หัวหน้าวิเชียร” ไม่ใช่ผู้ต้องหา ปัดขัดแย้งกรมอุทยานฯ ด้านกลุ่มเรารักชาติ รักเสือดำ พร้อมคณะสวมหน้ากากเสือดำถามความคืบหน้าทางคดี
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายการกวี สงศรี ที่ปรึกษากลุ่มเรารักชาติ รักเสือดำ พร้อมคณะ เกือบ 20 คน สวมหน้ากากเสือดำ พร้อมแผ่นป้ายข้อความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 ราย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี โดยได้มอบหน้ากากเสือให้แก่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นที่ระลึกด้วย
นายการกวีกล่าวว่า ทางกลุ่มมาติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อนายเปรมชัย เพราะมองว่าตำรวจทำงานล่าช้า โดยจะติดตามทวงถามการสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการตามที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะเร่งสรุปสำนวนให้ทันก่อนวันที่ 26 มี.ค.นี้ หากไม่สามารถสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ภายในวันดังกล่าว ทางกลุ่มจะเดินทางมาทวงถามอีกครั้ง
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ยืนยันว่ากฎหมายมีเพียงมาตรฐานเดียวเท่านั้น ไม่มีการดำเนินคดีต่อใครสองมาตรฐาน กฎหมายไม่มีคนรวยไม่มีคนจน มีแต่ทำผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย สำหรับคดีนี้ไม่เหมือนคดีทั่วไป ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงต้องรวมรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน และการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดต้องเป็นไปตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ย้ำว่าคดีไม่ได้ล่าช้า มั่นใจว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ทันวันที่ 26 มี.ค.นี้ ตนขอยืนยันกับประชาชน กับสื่อโซเชียลมีเดียว่าเสือดำไม่ตายฟรีอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) ตนเองจะเดินทางที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบสำนวนคดีของนายเปรมชัยและพวกว่าครบถ้วนหรือไม่ หากครบถ้วนก็จะนำส่งพนักงานอัยการทันที
ส่วนกรณีสื่อโซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีการเชิญนิติกรของกรมอุทยานฯ ออกนอกห้องสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า วันนั้นพนักงานสอบสวนนัดนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก มาซักถามประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแจ้งข้อหานายเปรมชัย ดังนั้น นิติกรจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องหรือร่วมรับฟัง เนื่องจากโดยทั่วไปถ้าจะมีนิติกรร่วมรับฟังก็ต่อเมื่อตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหาหรือเด็กเท่านั้น แต่นายวิเชียรไม่ใช่ผู้ต้องหา แต่มาให้ปากคำในฐานผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายเปรมชัย จึงไม่จำเป็นต้องมีนิติกรมาร่วมรับฟังด้วย
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวถึงกรณีที่นายเปรมชัยเดินทางกลับจากประเทศบังกลาเทศมาถึงประเทศไทย เมื่อช่วงเย็น วานนี้ (11 มี.ค.) ว่า การเดินทางเข้าออกประเทศออกไปแล้วจะเข้ามาหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับพนักงานสอบสวน เพราะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสิ้นสุดทุกขั้นตอนของตำรวจแล้ว คือได้ขออำนาจศาลฝากขังไปแล้ว อำนาจในการพิจารณาอยู่ที่ศาล ไม่ใช่พนักงานสอบสวน และในวันที่ 14 มี.ค.นี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ทั้งเรื่องอาวุธปืน การครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย และพยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน โดยการแจ้งข้อกล่าวทั้งหมดหลายคดี และเชื่อมั่นว่าพนักงานอัยจะสั่งฟ้องทุกข้อหา สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ส่วนกรณีที่สังคมเกรงว่านายเปรมชัยจะหลบหนีนั้น ตราบใดที่คดียังไม่ถึงชั้นฎีกา เชื่อว่าไม่มีความจำเป็นต้องหลบหนี
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พฐ.ได้มีการประสานงานความร่วมมือกับกรมอุทยานฯ มาโดยตลอด ส่วนเรื่องการจำลองวิถีกระสุนที่ทางกรมอุทยานฯ ส่งมาให้นั้น ย้ำว่าไม่สามารถใช้ประกอบสำนวนการสอบสวน เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ เพราะการไปกำหนดตำแหน่งของเสือที่ถูกยิงที่ชัดเจนนั้นทำได้ยาก อย่างไรก็ตามยืนยันไม่ได้มีความขัดแยังกับทางกรมอุทยานฯ ยังทำงานประสานกันอยู่ตลอด
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า นายเปรมชัยยังไม่ได้ไปไหน การที่เขาเดินทางออกนอกประเทศก็อยู่ในเงื่อนไขของศาล เพราะศาลไม่ได้ห้าม การอนุญาตเป็นอำนาจของศาล ไปก้าวล่วงไม่ได้ เรื่องนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์กำกับดูแลอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ย้ำว่าการทำสำนวนยังไม่พบข้อพิรุธ หรือข้อบกพร่อง พล.ต.อ.ศรีวราห์ดำเนินการไปได้เลย เพราะมีความรู้ มีประสบการณ์ ถ้ามีประเด็นอะไรใหม่ก็รายงานที่ตนอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่สังคมโซเชียลฯ มีข้อเรียกร้องต่างๆ ก็เป็นเรื่องดี ช่วยกันตรวจสอบ ช่วยกันดู เหมาะสำหรับประเทศไทย