ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หมอนักอนุรักษ์โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้คดี “เปรมชัย” และพวกยิงเสือดำป่าทุ่งใหญ่นเรศวรผ่านมาร่วมเดือนไม่มีคืบ แถมส่อเค้าบิดเบี้ยว ระบุหากปล่อยผู้ต้องหาลอยนวลสังคมไทยคงสิ้นหวัง ทำคนรุ่นใหม่เลิกเชื่อมั่นการทำความดี-เคารพกฎกติกา มุ่งแต่แสวงหาความร่ำรวยกับอำนาจ
จากกรณี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธาน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก เข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี จนกลายเป็นกระแสโด่งดังในสังคมนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 61 นายแพทย์ รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือหมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว “Rungsrit Kanjanavanit” แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว
โดยระบุว่า “หากสังคมเราปล่อยให้ผู้ต้องหาคดีนี้ลอยนวลได้ จะส่งผลกระทบ ฉุดยั้งให้สังคมไทยเราถดถอย ไม่มีโอกาสเป็นอารยประเทศกับชาวโลกได้เลย จะสร้างจิตวิทยา สิ้นหวังให้คนในชาติ ที่เคยอยากเห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้ ล้มเลิกความพยายาม และหันมาเอาตัวรอดไปวันๆ ตอกย้ำให้เด็กรุ่นใหม่เชื่อว่า ความดี ความถูกต้อง การเคารพกฎกติการ่วมกัน ไม่มีความหมาย ไม่มีคุณค่าใดๆ เพื่อความอยู่รอดในสังคมไทย เราทุกคนต้องแสวงหาความร่ำรวย และ connection เท่านั้น” ซึ่งมีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นสนับสนุนเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการสอบถามเกี่ยวกับการโพสต์แสดงความคิดเห็นดังกล่าว นายแพทย์ รังสฤษฎ์เปิดเผยว่า คดีนี้ผ่านมานานประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่พบว่าไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรจนหลายฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจว่าคดีนี้จะซ้ำรอยกับอีกหลายคดีของผู้ที่มีอิทธิพลหรือคนร่ำรวยอื่นๆ ที่พบว่าสุดท้ายหลุดคดีอีกหรือไม่
สิ่งที่น่ากังวลคือไม่อยากให้เกิดเหตุอย่างนั้นขึ้นอีก เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่เสือดำตัวหนึ่งถูกฆ่าตายเท่านั้น แต่มันหมายถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายด้วย อย่างเช่นกรณีนี้ที่เป็นการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์เข้มข้น แต่คนที่มีอำนาจหรือร่ำรวยกลับเข้าไปล่าสัตว์ป่าได้ หากถูกปล่อยเลยไปได้เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่าต่อไปสังคมไทยคงต้องยอมจำนนต่ออำนาจและความร่ำรวยที่อยู่เหนือความถูกต้อง โดยที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เสี่ยงเข้าไปจับกุมคงจะหมดกำลังใจในการทำงาน และส่งผลให้ต่างพากันรู้สึกว่าไม่รู้จะทำสิ่งที่ถูกต้องไปเพื่ออะไร
ขณะเดียวกันยังจะส่งผลกระทบต่อสังคมไทยในภาพรวมด้วย เพราะจะกลายเป็นว่าการทำงานหรือการต่อสู้เพื่อความถูกต้องไม่มีความสำคัญและไร้ความหมาย ขณะที่ความพยายามทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองมีความร่ำรวย มีอำนาจ หรือมีเส้นสาย กลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้าย เพราะเป็นการสร้างจิตวิทยาและค่านิยมที่ผิดให้แก่สังคม โดยเฉพาะเด็กรุ่นหลังที่เติบโตมาในสภาพดังกล่าว ทั้งนี้ มองว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยแม้แต่น้อยที่จะมีการรณรงค์สร้างค่านิยมที่ดีหรือปลูกฝังคุณธรรม รวมทั้งการต่อต้านการทุจริต หากตราบใดที่สังคมไม่มีการปฏิบัติสิ่งเหล่านั้นอย่างจริงจังเป็นปกติ
นายแพทย์ รังสฤษฎ์ระบุด้วยว่า เชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนหลายฝ่ายพยายามทำให้สังคมไทยดีขึ้นในช่วงที่มีโอกาสแล้ว อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้หากไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดได้แล้ว จะยิ่งทำให้สังคมไทยถูกมองจากสังคมโลกในทางที่ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม โดยจะยิ่งถูกมองว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่รักษากฎกติกาใดๆ และอำนาจเงินสามารถซื้อความถูกต้องได้
ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้มีความชัดเจนอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่อยากให้มีการทำอะไรให้บิดเบือนไปจากความเป็นจริงจนกลายเป็นบาดแผลของสังคมไทย และที่จริงแล้วโทษในคดีนี้ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต หากผู้กระทำผิดออกมายอมรับและขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีมากกว่า
นอกจากนี้ นายแพทย์ รังสฤษฎ์ย้ำว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้ถูกผู้คนจำนวนมากในประเทศไทยกล่าวถึงและมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมอย่างมากนั้นเชื่อว่าไม่ใช่เพราะทุกคนรักเสือดำ แต่เนื่องจากมองว่าการกระทำในครั้งนี้เป็นการกระทำของผู้ที่มีอำนาจหรือร่ำรวย จึงอยากมีความหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะสามารถเอาผิดคนเหล่านี้ได้ เพราะที่ผ่านมาต่างท้อแท้กับสิ่งเหล่านี้ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้อยากเห็นและมีความหวังว่า ที่จริงแล้วกฎหมายสามารถบังคับใช้ได้กับทุกคนและมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งมีความหวังว่าประเทศจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้จริง ซึ่งในที่สุดแล้วหากกฎหมายไม่ถูกบังคับใช้อย่างจริงจังในกรณีนี้แล้ว จะกลายเป็นสิ่งที่ซ้ำเติมให้ผู้คนท้อแท้และเลิกหวังใดๆ กับประเทศ
นายแพทย์รังสฤษฎ์ ระบุด้วยว่า เชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนหลายฝ่ายพยายามทำให้สังคมไทยดีขึ้นในช่วงที่มีโอกาสแล้ว อย่างไรก็ตามจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้หากไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดได้แล้ว จะยิ่งทำให้สังคมไทยถูกมองจากสังคมโลกในทางที่ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม โดยจะยิ่งถูกมองว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่รักษากฎกติกาใดๆ และอำนาจเงินสามารถซื้อความถูกต้องได้
ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้มีความชัดเจนอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่อยากให้มีการทำอะไรให้บิดเบือนไปจากความเป็นจริง จนกลายเป็นบาดแผลให้กับสังคมไทย และที่จริงแล้วโทษในคดีนี้ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต หากผู้กระทำผิดออกมายอมรับและขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีมากกว่า
นอกจากนี้ นายแพทย์รังสฤษฎ์ ย้ำว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้ถูกผู้คนจำนวนมากในประเทศไทยกล่าวถึงและมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมอย่างมากนั้น เชื่อว่าไม่ใช่เพราะทุกคนรักเสือดำ แต่เนื่องจากมองว่าการกระทำในครั้งนี้เป็นการกระทำของผู้ที่มีอำนาจหรือร่ำรวย จึงอยากมีความหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะสามารถเอาผิดกับคนเหล่านี้ได้ เพราะที่ผ่านมาต่างท้อแท้กับสิ่งเหล่านี้ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้อยากเห็นและมีความหวังว่าที่จริงแล้วกฎหมายสามารถบังคับใช้ได้กับทุกคนและมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งมีความหวังว่าประเทศจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้จริง ซึ่งในที่สุดแล้วหากกฎหมายไม่ถูกบังคับใช้อย่างจริงจังในกรณีนี้แล้ว จะกลายเป็นสิ่งที่ซ้ำเติมให้ผู้คนท้อแท้และเลิกหวังใดๆ กับประเทศ
