MGR Online - “ศรีวราห์” เผยผลตรวจพิสูจน์ปืน 43 กระบอก “เปรมชัย” นักล่าเสือดำ ไม่พบหัวกระสุนไรเฟิลโยงยิงช้างกุยบุรี แต่โดนข้อหามีปืนเถื่อน
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เปิดเผยถึงการตรวจอาวุธปืนที่ยึดได้จากบ้านพักของ นายเปรมชัย กรรณสูต ปธ.บริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ในซอยศูนย์วิจัย กทม. ว่า ปืนที่ยึดได้ 43 กระบอก ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจสอบ พบว่า มี 2 กระบอกที่มีความผิด ตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ ชัดเจน โดยกระบอกหนึ่งเป็นปืนอัดลมประกอบเอง อีกกระบอกเป็นปืนที่ขนาดลำกล้องและความยาวเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่กลับมีการตอกเลข ทั้งที่เป็นปืนที่ไม่สามารถอนุญาตได้ นอกจากนี้ยังมีอีก 4 กระบอก ที่เอกสาร ป.4 และเลขปืนไม่ชัดเจน ซึ่ง 4 กระบอกนี้ส่งให้กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบและทันทีที่ได้ข้อมูลผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจากกระทรวงมหาดไทย ก็จะต้องดำเนินคดีกับนายเปรมชัยในฐานะผู้ครอบครองตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ต่อไป ส่วนปืนอีก 37 กระบอก มีเอกสารถูกต้องครบถ้วน ไม่มีปัญหา ไม่ผิดกฎหมายแต่ได้สั่งการให้ พฐก. เก็บตัวอย่างกระสุนจากปืนทุกกระบอกเพื่อเป็นฐานข้อมูลแล้ว หากพบการล่าสัตว์ในจุดใดน่าสงสัยจะได้ตรวจเทียบได้
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. กล่าวด้วยว่า ได้เก็บตัวอย่างกระสุนจากปืนของนายเปรมชัย ทุกกระบอกแล้ว ส่วนก่อนหน้านี้ ที่สงสัยว่า ปืนไรเฟิลของนายเปรมชัย ที่ใช้กระสุนขนาด .375 อาจเกี่ยวข้องหรือเป็นปืนที่ใช้ยิงช้างป่า ที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพบหลักฐานหัวกระสุนขนาด .375 เหมือนกัน ได้ตรวจพิสูจน์หัวกระสุนแล้ว โดย สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้ยืนยันผลการเทียบหัวกระสุนแล้ว พบว่า เป็นปืนคนละกระบอก ดังนั้น ปืนต้องสงสัยของนายเปรมชัย ไม่เกี่ยวข้องกับการยิงช้างป่า ที่ตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้
สำหรับการตรวจปืนที่จุดเกิดเหตุยิงเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร นั้น ผบก.พฐก. กล่าวว่า ผลตรวจพบว่า พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20 ตกบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งตรงกับปืนลูกซอง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 กระบอกของนายเปรมชัย ที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุ ตรงนี้ยืนยันว่า ปืนกระกระสุนตรงกัน แต่ในซากเสือดำ พบถูกยิงกระสุนลูกปลาย ซึ่งทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบยากว่ายิงจากปืนกระบอกใดในขั้นนี้ก็ตรวจสอบไม่ได้ แต่เพียงเท่านี้ก็พออนุมานได้แล้วว่า ในที่เกิดเหตุมีปืนลูกซอง พบปลอกกระสุนลูกซอง นัมเบอร์ SSD ซึ่งตรงกับปืนตกอยู่ตรงนั้น และที่ซากเสือดำพบกระสุนลูกปลาย ซึ่งเป็นกระสุนจากปืนลูกซอง แม้ไม่สามารถชี้ได้ว่าจากปปืนกระบอกไหน แต่ในที่เกิดเหตุก็มีปืนอยู่เท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปปป. เปิดเผยถึงการดำคดีฐานติดสินบนเจ้าพนักงาน ว่า หลังจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน ในพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) เวลา 14.00 น. จะมีการประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อตั้งประเด็นในการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นในวันที่ 22 ก.พ. เวลา 10.00 น. ได้นัดหมาย นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีก 3 คน มาสอบปากคำ ในรายละเอียดของคดี เกี่ยวกับการติดสินบน และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเรียกนายเปรมชัย มาแจ้งข้อกล่าวหา
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า นายเปรมชัย อยู่ที่ไหน ตนไม่ทราบ ติดต่อได้หรือไม่เขาคงติดต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ยังไม่รายงานเข้ามาว่าติดต่อไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นายเปรมชัย มีเวลาถึงวันที่ 26 มีนาคม ตามที่ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดหมาย แต่อย่างไรก็ตาม กรณีที่ พนักงานสอบสวนปปป. จะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาคดีสินบน สัปดาห์หน้า หากไม่มา ก็ขัดหมายเรียก แต่เชื่อว่าน่าจะมา