กมธ.ทรัพยากรฯ สนช.เตรียมเชิญ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า-หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ทุ่งใหญ่นเรศวร สอบข้อเท็จจริงกรณีล่าเสือดำ พร้อมแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ จ่อแก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษ
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่รัฐสภา พล.ท.ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานคณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกคณะกรรมาธิการฯ ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ พร้อมพวก ตั้งเต็นท์ล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง และพบซากไก่ฟ้าหลังเทา เนื้อเก้ง และเสือดำถูกชำแหละ บนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ว่าทางคณะกรรมาธิการขอแสดงความกังวล และห่วงใยในเหตุการณ์กรณีกลุ่มบุคคลพร้อมด้วยอาวุธเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เข้าไปพักแรมบริเวณพื้นที่หวงห้าม และคุกคามชีวิตสัตว์ป่า ซึ่งเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 เพราะการกระทำดังกล่าวถือได้ว่ากระทำผิดหลายฐานความผิด ซึ่งเหตุการณ์และบุคคลที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
พล.ท.ชัยยุทธแถลงต่อว่า คณะกรรมาธิการขอแสดงความชื่นชมต่อการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ที่ร่วมกันแสดงออกถึงความรัก ห่วงใยต่อชีวิตสัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม ที่กำลังถูกทำลาย โดยเฉพาะป่าไม้ที่ถูกคุกคามและสัตว์ป่าของประเทศไทยที่กำลังสูญพันธุ์ เพราะการกระทำอย่างโหดร้ายของมนุษย์ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการขอให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจในกฎหมาย กฎ ระเบียบ เพื่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ใช้เพื่อปกป้องทรัพยากร ธรรมชาติและสัตว์ป่า มีอำนาจขอบเขตการทำงานที่ครอบคลุมเพื่อบังคับใช้สำหรับผู้กระทำผิดชัดเจน เพื่อทำให้ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า เป็นสมบัติอันมีค่าของประเทศที่ประชาชนทุกคนต้องหวงแหน ต้องบำรุงรักษา เพื่อเป็นมรดกล้ำค่าไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง
“การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ อย่างมีประสิทธิภาพ ซื่อสัตย์ ทุ่มเท เสียสละ รวมทั้งได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นพฤติกรรมที่คณะกรรมาธิการ ขอยกย่อง สดุดี ขอเชิดชู ส่งเสริม สนับสนุน ดูแล ปกป้องเจ้าหน้าที่ที่ดี เพื่อการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านปฏิบัติงานด้วยความกล้าหาญ ซื่อสัตย์สุจริต และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ชนรุ่นหลัง และทุกๆ คนในชาติต่อไป” พล.ท.ชัยยุทธกล่าว
พล.ท.ชัยยุทธกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ทาง กมธ.จะเชิญ น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มาพบเพื่อแสดงความขอบคุณและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้จะมีการพิจารณาเพื่อเพิ่มบทลงโทษผู้ที่นำอาวุธเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและล่าสัตว์ให้รุนแรงขึ้นด้วย โดยขณะนี้กระทรวงทรัพยากรฯอยู่ในระหว่างเตรียมการเสนอแก้ไขพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งหากเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของ สนช. กรรมาธิการฯ ก็จะพิจารณาเพื่อเสนอเรื่องการเพิ่มบทลงโทษให้มีความเหมาะสมมากขึ้นด้วย
ด้านนายสนิท อักษรแก้ว รองประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงว่า ยอมรับกฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบันยังมีบทลงโทษน้อยเกินไป ซึ่งล่าสุดก็ได้พยายามติดตามการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เท่าที่ทราบขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ส่วนตัวเห็นว่าควรจะมีการแก้ไขบทโทษต่อผู้ที่ล่าสัตว์ป่าสงวนให้หนักและรุนแรง อาจจะเพิ่มถึง 10-20 ปี ซึ่งต้องพิจารณาอีกครั้งเพื่อให้ความเหมาะสม ส่วนการเข้าไปพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบไม่ใช่ว่า “ผู้ใหญ่ ”ขอมาก็ให้เข้าไป วัฒนธรรมเช่นนี้ควรจะเลิกได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ พล.ร.อ.วีระพันธ์ สุขก้อน หนึ่งในกรรมาธิการฯ ได้สวมเสื้อยืดรณรงค์ยุติการล่าเสือดำ และสาปแช่งผู้ที่กระทำผิดด้วย โดยบนเสื้อดังกล่าวด้านหน้ามีข้อความว่า CRY FOR BLACK LEOPARD ขณะที่ด้านหลังมีข้อความว่า “สาปแช่งให้แรงกรรมทำหน้าที่อย่าได้มีวิถีสุขทุกสถาน ตีแผ่แต่ละคำย้ำสันดาน ให้เห็นเดรัจฉานผ่านใจคน” ซึ่งเป็นเสื้อรณณรงค์ห้ามล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า