MGR Online - ป.ป.ส.ผนึกกำลังทหาร-ตำรวจลงพื้นที่ขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด 9 จังหวัด เพื่อดำเนินการกับเป้าหมายบุคคลรวม 41 ราย ตัดวงจรการค้ายานรก ยึดทรัพย์สินมีมูลค่ารวมกว่า 111 ล้าน
วันนี้ (8 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดปฏิบัติการ “1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยยาเสพติด” ครั้งที่ 5/2561 ตามแผนประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด ปี 2561 โดยสำนักงาน ป.ป.ส.ผสานกำลังร่วมกับตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งสิ้น 497 นาย ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านชุมชน ตามแผนประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด ปี 2561 จำนวน 2 เขต 11 อำเภอ ใน 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ จันทบุรี เชียงใหม่ ลำปาง อุดรธานี สุราษฎร์ธานี ชุมพร และนราธิวาส ดำเนินการกับเป้าหมายบุคคลรวม 41 ราย
สรุปผลการปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวม 41 ราย โดยเป็นผู้ค้า ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด 12 ราย ครอบครองยาเสพติด 15 ราย และนำผู้เสพ 14 ราย เข้าสู่กระบวนการบำบัด สามารถยึดของกลางยาบ้า 5,992 เม็ด ไอซ์ 26.99 กรัม กัญชา 360.42 กรัม น้ำกระท่อม 750 มิลลิลิตร ต้นกระท่อม 4 ต้น คีตามีน 0.48 กรัม อาวุธปืน 9 กระบอก กระสุน 43 นัด และยึดทรัพย์สินรวม 3,000,000 บาท
นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า ปฏิบัติการ 1386 ทั่วไทย ปลอดภัยยาเสพติด ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ปี 2559 มุ่งเน้นการปราบปรามกลุ่มนักค้ายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชนที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และมีการร้องเรียนมายังสำนักงาน ป.ป.ส. ผ่านสายด่วน 1386 จดหมายร้องเรียน หรือช่องทางอื่นๆ โดยมีเป้าหมายหลักสอดคล้องกับการดำเนินงานโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด คือ ปัญหายาเสพติดในชุมชนต้องลดระดับความรุนแรงลงและประชาชนมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของภาครัฐให้ความร่วมมือในการเข้ามามีส่วนร่วมสอดส่องดูแลหมู่บ้านชุมชนของตนเอง ส่งผลให้สามารถลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในหมู่บ้านชุมชนได้
"เมื่อวันที่ 5 มี.ค.61 สำนักงาน ปปส.ภาค 6 สามารถขยายผลยึดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้รวมมูลค่า 10,000,000 บาท และในวันนี้สำนักงาน ปปส. ภาค 5 สามารถยึดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้รวมมูลค่า 3,000,000 บาท จะเห็นได้ว่าการขยายผลไปจับกุมผู้ค้าระดับที่เหนือขึ้นไปเป็นการตัดวงจรการค้า การแพร่ระบาดเข้าสู่หมู่บ้านชุมชน โดยการสืบสวนติดตามพฤติกรรม ขยายผล เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินจากการกระทำความผิด หากเป็นผู้เสพจะให้โอกาสสมัครใจเข้ารับการบำบัด และนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป และที่ผ่านมาก็ได้กำชับให้หน่วยในพื้นที่ปฏิบัติการเชิงรุกในทุกคดี หากทุกพื้นที่ปฏิบัติได้ในลักษณะนี้ เชื่อว่าปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน จะลดระดับลงอย่างแน่นอน”
นายศิรินทร์ยา กล่าวอีกว่า ภายใต้ปฏิบัติการนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60 –8 มี.ค.61 ได้ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ รวม 49 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานครปทุมธานี อยุธยา ลพบุรี สระบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ระยอง เชียงใหม่ ลำปาง น่าน พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ ตาก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุทัยธานี ราชบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร นครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ชัยภูมิ อุดรธานี กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ ยโสธร หนองบัวลำภู ขอนแก่น มุกดาหาร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง ชุมพร พังงา สงขลา กระบี่ สตูล และนราธิวาส ซึ่งเป็นเป้าหมายจากการร้องเรียนและจากการสืบสวน รวม 646 ราย สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติด 230 ราย นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด 416 ราย ยึดยาบ้า 1,050,404 เม็ด เฮโรอีน 8.46 กิโลกรัม ไอซ์ 560.51 กรัม กัญชา 461.29 กิโลกรัม ฝิ่นสุก 5.1 กรัม กระท่อม 5.16 กิโลกรัม น้ำกระท่อม 15 กิโลกรัม ยาอี 2 เม็ด ต้นกระท่อม 5 ต้น คีตามีน 0.48 กรัม อาวุธปืน 65 กระบอก กระสุนปืน 232 นัด พร้อมได้ทำการยึดทรัพย์สินมีมูลค่ารวม 111,714,329 บาท